เอเอฟพี - เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายถูกยิงปืนเข้าใส่เมื่อคืนวันเสาร์ (27 ก.ย.) โดยมีหนึ่งรายที่ได้รับบาดเจ็บ ในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี ที่เคยมีการประท้วงครั้งใหญ่หลังจากวัยรุ่นผิวดำถูกยิงเสียชีวิต
ไบรอัน เชลแมน โฆษกตำรวจ เซนหลุยส์ เคาน์ตี ระบุว่า มีผู้ใช้อาวุธปืนยิงถูกแขนซ้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่ง ขณะกำลังเดินตรวจตราเมื่อเวลา 21.10 น. ของวันเสาร์ (11.10 น. ของวันอาทิตย์ ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งผู้ต้องสงสัยนั้นหนีไปได้
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ได้ออกเดินตรวจตราบริเวณ เฟอร์กูสัน คอมมูนิตี เซ็นเตอร์ แล้วพบชายคนหนึ่งมีท่าทางน่าสงสัย จึงได้พยายามเข้าไปสอบถามว่ามาทำอะไรแถวนั้น แต่แล้วชายคนดังกล่าวก็ได้วิ่งหนีไป
“เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิ่งตามผู้ต้องสงสัย ระหว่างที่กำลังวิ่งตาม ชายคนนั้นก็ได้หันกลับมาพร้อมกับชักปืนยิงเข้าใส่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงสวนกลับไป แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ากระสุนที่ยิงสวนไปนั้นถูกตัวผู้ต้องสงสัยหรือไม่” คำแถลงของเชลแมนระบุ พร้อมกับบอกอีกว่ายังตามหาตัวผู้ต้องสงสัยไม่เจอ
อีกด้านหนึ่ง ในละแวกใกล้เคียงกันที่เซนต์หลุยส์ มีตำรวจที่ออกเวรแล้วถูกยิงโดยกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขณะกำลังขับรถส่วนตัวอยู่บนถนนช่วงหลังเที่ยงคืน
เจ้าหน้าที่รายนี้ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจากเศษกระจกที่แตก เขาไม่ได้ยิงตอบโต้
“มันยังไม่ชัดเจนว่าเหตุที่เกิดขึ้นคราวนี้ เป็นเพราะตำรวจตกเป็นเป้าหรือว่าเป็นแค่เหตุร้ายที่เกิดขึ้นแบบไม่เจาะจง” เชลแมน กล่าว
ที่เมืองเฟอร์กูสันเคยมีการประท้วงครั้งใหญ่ หลังจากที่ “ไมเคิล บราวน์” วัยรุ่นผิวดำอายุ 18 ปีถูกยิงเสียชีวิตโดยตำรวจผิวขาวเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา
นักศึกษาผิวดำผู้นี้ถูกยิงด้วยกระสุนอย่างน้อย 6 นัด โดยเจ้าหน้าที่ “ดาร์เรน วิลสัน” แถมร่างของเขายังถูกทิ้งไว้บนถนนเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่จะมีการนำศพออกไป
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเฟอร์กูสัน เมืองที่อยู่แถบรอบนอกของเซนต์หลุยส์ มีประชากรราวๆ 21,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ “แอฟริกัน-อเมริกัน” ทำให้ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี “เจย์ นิกสัน” ต้องร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ เข้ามาช่วยระงับการประท้วงในตอนนั้น
เหตุการณ์ครั้งนั้น มีผู้ประท้วงบางรายโวยว่าตำรวจใช้กำลังเกินควรกับผู้ที่ทำการชุมนุมอย่างสงบ ขณะที่การสวมชุดเครื่องแบบของเจ้าหน้าที่เมืองเฟอร์กูสัน ซึ่งดูราวกับทหารที่จะไปออกรบ ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศว่าเหมาะสมแล้ว หรือที่จะสวมชุดแบบนั้นเข้าเผชิญหน้ากับพลเมืองอเมริกัน
