โอบามาวอนชาวเฟอร์กูสัน “ตั้งสติ” ส่ง รมว.ยุติธรรมตามติด "คดีบราวน์"

เอเจนซีส์ - สถานการณ์ในเฟอร์กูสันยังระอุ ผู้ชุมนุมถูกยิง 2 คน ถูกจับกุมอีกนับสิบเมื่อคืนวันจันทร์ (18) ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบา แห่งสหรัฐฯ มาเรียกร้องชาวเมืองอยู่ในความสงบ พร้อมส่งรัฐมนตรียุติธรรมเดินทางไปติดตามการสืบสวนคดีที่หนุ่มผิวดำไม่มีอาวุธถูกตำรวจผิวขาวยิงเสียชีวิตเมื่อกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายงานว่า คณะลูกขุนใหญ่จะเริ่มพิจารณาหลักฐานเพื่อตัดสินใจว่า จะดำเนินคดีตำรวจคนดังกล่าวข้อหาฆาตกรรมหรือไม่ในวันพุธนี้ (20)

รอน จอห์นสัน ผู้บัญชาการตำรวจทางหลวงรัฐมิสซูรีเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (19) ว่า ผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ ที่ปะปนอยู่ในฝูงชนจำนวนมากยิงปืน ขว้างก้อนหิน และระเบิดขวดใส่ตำรวจซึ่งตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา

ในเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในเมืองเฟอร์กูสัน เทศมณฑลเซนต์หลุยส์ เมื่อคืนวันจันทร์ (18) มีผู้ชุมนุมถูกยิง 2 คน และถูกจับกุม 31 คน โดยจอห์นสันยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ใช้ปืน

การชุมนุมที่ลุกลามกลายเป็นจลาจลต่อเนื่องมาหลายวันในเมืองนี้มีที่มาจากกรณีที่ ไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีวัย 18 ปี ถูกดาร์เรน วิลสัน ตำรวจผิวขาววัย 28 ปี ยิงเสียชีวิตกลางวันแสกๆ โดยปราศจากอาวุธเมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา

จอห์นสันแถลงว่า การชุมนุมในวันจันทร์เริ่มต้นขึ้นด้วยความสงบเรียบร้อย แต่มีกลุ่มคนราว 200 คนเริ่มเคลื่อนเข้าหาและโจมตีตำรวจ ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย โดยในการแถลงข่าวได้มีการนำหลักฐานมาแสดง อาทิ ปืนและระเบิดขวดที่ยึดมาจากผู้ประท้วง

ผู้บัญชาการตำรวจทางหลวงซึ่งเป็นคนแอฟริกัน-อเมริกันเสริมว่า ผู้ประท้วงบางคนไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่มาไกลจากนิวยอร์กและแคลิฟอร์เนีย

ทางด้านเจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี ประกาศยกเลิกคำสั่งเคอร์ฟิวในวันจันทร์ (18) หลังนำกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติร่วมสนับสนุนการรักษาความปลอดภัยในเฟอร์กูสัน อย่างไรก็ดี ตำรวจยังห้ามการปักหลักชุมนุมในที่ใดที่หนึ่ง รวมทั้งเรียกร้องให้ชุมนุมในตอนกลางวันเพื่อความปลอดภัย

วันเดียวกัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ปราศรัยทางทีวีเรียกร้องโดยบอกว่า ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ชุมนุมอย่างสงบ มีเพียงคนกลุ่มเล็กๆ ที่บ่อนทำลายความยุติธรรม

ประมุขทำเนียบขาวเสริมว่า การลบล้างความไม่ไว้ใจระหว่างประชาชนกับตำรวจในหลายเมืองทั่วสหรัฐฯ โดยเฉพาะในชุมชนที่คนผิวดำซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยรู้สึกว่าตนเองถูกปิดกั้นจากโอกาสในการมีชีวิตที่ดีขึ้นนั้น ต้องใช้การรับฟัง ไม่ใช่การตะโกน

ผู้นำแดนอินทรีคนแรกที่มีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันสำทับว่า ตำรวจท้องถิ่นไม่มีข้ออ้างในการใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ผู้ว่าการมิสซูรีใช้กองกำลังรักษาดินแดนภายในขอบเขตจำกัด

นอกจากนี้ โอบามายังเตรียมส่งอิริก โฮลเดอร์ รัฐมนตรียุติธรรมไปยังเฟอร์กูสัน เพื่อติดตามการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของบราวน์ในวันพุธ

ทั้งนี้ นักพยาธิวิทยาด้านการชันสูตรศพที่ครอบครัวบราวน์ว่าจ้างเปิดเผยว่า บราวน์ถูกยิงอย่างน้อย 6 นัด โดย 2 นัดเข้าที่ศีรษะ

เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการบอกเล่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง โดยแหล่งข่าวในวงการตำรวจเผยว่า มีการต่อสู้ระหว่างที่บราวน์พยายามแย่งปืนจากวิลสัน ทว่า ผู้เห็นเหตุการณ์กลับยืนยันว่า บราวน์ชูมือเหนือศีรษะและไม่ได้ขัดขืนขณะถูกยิง

ไมเคิล เบเดน อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของนิวยอร์กซิตี้ ที่ชันสูตรศพผู้ตายในนามของครอบครัวบราวน์ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (18) ว่า ไม่พบหลักฐานว่ามีการต่อสู้ระหว่างผู้ตายกับตำรวจ และกระสุนที่เจาะเข้าแขนขวายังบ่งชี้ว่า บราวน์อาจชูมือขึ้น หันหลัง หรือยกมือขึ้นปิดหน้าหรือหน้าอกขณะถูกยิง

นอกจากนั้น การที่ไม่มีคราบเขม่าดินปืนบนร่างกายของบราวน์บ่งชี้ว่า เขาไม่ได้ถูกยิงในระยะประชิด อย่างไรก็ดี เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบเสื้อผ้าของผู้ตาย จึงไม่สามารถบอกได้ว่า มีเขม่าดินปืนติดอยู่หรือไม่

เบเดนเสริมว่า ไม่ได้ตรวจร่างกายวิลสัน จึงไม่สามารถบอกได้ว่า ตำรวจผู้นั้นได้รับบาดเจ็บตามที่มีการเปิดเผยหรือไม่

วันเดียวกัน ซูซาน แมกคูน เจ้าหน้าที่ประสานงานของแผนกชันสูตรศพเทศมณฑลเซนต์หลุยส์แถลงว่า บราวน์ถูกยิง 6-8 นัดที่ศีรษะและอก และว่า ผลการชันสูตรศพฉบับสมบูรณ์จะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์โดยประมาณ

ทางด้านหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ฉบับวันจันทร์ (18) รายงานว่า พบร่องรอยกัญชาในร่างกายของบราวน์

ทั้งนี้ ร่างของบราวน์ถูกนำไปผ่าพิสูจน์ 3 ครั้งโดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ครอบครัว และกระทรวงยุติธรรม โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (18)

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าคณะลูกขุนใหญ่มิสซูรีจะเริ่มพิจารณาหลักฐานอย่างเร็วที่สุดในวันพุธ (20) เพื่อพิจารณาว่า ควรดำเนินคดีวิลสันข้อหาฆาตกรรมบราวน์หรือไม่