เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาระบุในช่วงเช้ามืดวันพุธ (20 ส.ค.) ว่าได้ทำการจับกุมผู้ประท้วง 47 ราย พร้อมทั้งยึดปืน 3 กระบอกจากผู้ที่ออกมาเดินขบวนต่อต้านในคืนวันอังคารภายในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี ซึ่งอาจจะทำให้ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นอีก หลังจากที่การประท้วงค่อนข้างสงบในช่วงกลางวัน
วิธีการรับมือกับฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองนี้ ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงระดับชาติไปแล้ว หลังจากเกิดเหตุตำรวจผิวขาวยิง “ไมเคิล บราวน์” วัยรุ่นผิวดำจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา
ท่าทีของตำรวจในคืนวันอังคาร ต่างจากคืนก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่เคยยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชน มาคราวนี้เหล่าตำรวจในชุดปราบจลาจลพร้อมรถหุ้มเกราะกลับทำตัวสงบเสงี่ยม แต่ในท้ายที่สุดพอถึงช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) ตำรวจก็ได้เข้าผลักดันฝูงชนที่มารวมตัวกันในบริเวณที่กำหนดให้เป็นพื้นที่ชุมนุมแห่งใหม่ ซึ่งเคยเป็นจุดขายรถยนต์มาก่อน
ร้อยตำรวจเอก รอน จอห์นสัน จากกองบังคับการตำรวจทางหลวงรัฐมิสซูรี ระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้ขว้างปาขวดแก้วและพลาสติกที่บรรจุน้ำและปัสสาวะเข้าใส่ตำรวจในช่วงท้ายๆ ของการชุมนุมเมื่อคืนวันอังคาร (19 ส.ค.) ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการจับกุม
จอห์นสันระบุว่า การประท้วงในคืนวันอังคาร (19 ส.ค.) ไม่เหมือนกับคืนวันจันทร์ (18 ส.ค.) โดยกลุ่มผู้ประท้วงไม่ได้ยิงปืนเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้นทางตำรวจจึงไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาในการหยุดยั้งผู้ประท้วง
“เมื่อคืนเราได้เห็นความเคลื่อนไหวที่ต่างไปจากเดิม” เขากล่าว
นายตำรวจผู้นี้เชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความพยายามของพวกผู้นำชุมชน พวกนักเคลื่อนไหวและพวกผู้นำทางศาสนา ที่พยายามจะทำให้การประท้วงเป็นไปด้วยความสงบ ป้องกันไม่ให้พวกที่นิยมความรุนแรงเข้ามาปลุกปั่น
“ยกมือแล้ว อย่ายิง” เสียงผู้ประท้วงพากันตะโกนซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับชูมือขึ้นไปในอากาศ ได้กลายเป็นสโลแกนสำคัญของกลุ่มผู้ประท้วงในเฟอร์กูสัน เมืองที่เต็มไปด้วยตำรวจผิวขาว
หลังจากที่ได้เข้าไปปะปนกับฝูงชนตั้งแต่เริ่มการประท้วง “จอห์นสัน” นายตำรวจผิวสีที่เข้ามาฟื้นฟูความสงบในเฟอร์กูสัน เมืองที่เต็มไปด้วยคนผิวดำ ได้ประณามพวกที่เพิกเฉยต่อคำสั่งของตำรวจที่ให้สลายตัวเมื่อคืนวันอาทิตย์และคืนวันจันทร์ว่าเป็นพวกอาชญากร
“พวกตาขาวที่เอาแต่หลบอยู่ในความมืด ควรจะหยุดได้แล้ว” เขาบอกกับนักข่าว
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (19 ส.ค.) ห่างออกไปจากเซนต์หลุยส์ไม่กี่กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงชายคนหนึ่งจนเสียชีวิต ขณะที่เขากำลังถือมีดวิ่งเข้าหาตำรวจพร้อมกับตะโกนว่า “ฆ่าฉันสิ” ในระหว่างที่มีการปล้นร้านสะดวกซื้อแถวนั้น
ร้อยตำรวจเอก เอ็ด คุนซ์ จากกองบัญชาการตำรวจนครเซนต์หลุยส์ ได้บอกกับนักข่าวตรงจุดเกิดเหตุว่า ได้เริ่มทำการสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว แต่เท่าที่เขาได้ยินมา ดูเหมือนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ก็พอจะพูดได้ว่าสมเหตุสมผลแล้ว
ด้าน เอริค โฮลเดอร์ รัฐมนตรียุติธรรมของสหรัฐฯ มีกำหนดไปเยือนเมืองเฟอร์กูสันในวันพุธ (20 ส.ค.) ท่ามกลางการสอบสวนของรัฐบาลกลางถึงความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการละเมิดสิทธิพลเมืองในเฟอร์กูสัน
ในวันเดียวกัน คณะลูกขุนใหญ่ก็มีกำหนดจะเริ่มฟังการให้ปากคำของพยาน ในคดีการเสียชีวิตของไมเคิล บราวน์ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้นำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ดาร์เรน วิลสัน” มาดำเนินคดีในโทษฐานฆาตกรรม
ขณะที่ครอบครัวของบราวน์ก็กำลังเตรียมทำพิธีศพในวันจันทร์ (25 ส.ค.) ที่กำลังจะมาถึง