รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียกล่าวในวันเสาร์ (27) โดยระบุ ต้องการพูดคุยแบบทวิภาคีเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับชาติเพื่อนบ้านอย่างปากีสถาน แต่การพูดคุยดังกล่าวจะต้องเกิดขึ้นโดยปราศจากหลืบเงาของ “ลัทธิก่อการร้าย” พร้อมย้ำ ปากีสถานจะต้องเป็นฝ่ายที่สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการหารือของเพื่อนบ้านเอเชียใต้ทั้งสองที่ต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
ท่าทีดังกล่าวของ นเรนทรา โมดี มีขึ้นขณะที่เขาขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ ที่มหานครนิวยอร์ก และถือเป็นการแสดงท่าทีของผู้นำอินเดียเพียงแค่ 1 วัน หลังจากที่นายกรัฐมนตรี นาวาซ ชาริฟ แห่งปากีสถานออกมาแสดงความคับข้องใจต่อการเจรจาเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับแคว้นแคชเมียร์ที่ไร้ความคืบหน้า และยังแสดงความกังขาต่อความจริงใจของรัฐบาลอินเดียในการสร้างสันติภาพ
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อินเดียประกาศถอนตัวออกจากการเจรจาสันติภาพกับปากีสถานเกี่ยวกับปัญหาแคชเมียร์โดยการถอนตัวของอินเดียเกิดขึ้นหลังมีรายงานที่ยืนยันว่า รัฐบาลปากีสถานมีแผนหารือกับกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนในแคชเมียร์ก่อนหน้าการเจรจาสันติภาพกับอินเดีย
ที่ผ่านมา อินเดียเป็นฝ่ายกล่าวหาปากีสถานมาโดยตลอดว่า ให้การสนับสนุนต่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในแคชเมียร์ในการก่อเหตุโจมตีที่มีทหาร-ตำรวจอินเดีย ตลอดจนพลเรือนผู้บริสุทธิ์เป็นเป้าหมาย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีโมดีแห่งอินเดีย มีกำหนดพบหารือนอกรอบเป็นการส่วนตัวกับผู้นำเนปาล บังกลาเทศ และศรีลังกา ระหว่างเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นในนิวยอร์ก แต่ไม่มีกำหนดพบหารือกับนายกรัฐมนตรีชาริฟแห่งปากีสถาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของปากีสถานแต่อย่างใด
