เอเอฟพี – รัฐบาลเซียร์ราลีโอนประกาศให้ 3 เขตและอีก 12 หมู่บ้านชนเผ่าเป็น “พื้นที่กักกัน” เพื่อสกัดกั้นการระบาดของไวรัสอีโบลา โดยให้มีผลบังคับทันที ซึ่งถือเป็นการประกาศพื้นที่กักกันที่กว้างขว้างที่สุดนับตั้งแต่ไวรัสมรณะเริ่มแพร่ระบาดในแอฟริกาตะวันตกปีนี้
ในการแถลงผ่านสื่อโทรทัศน์เมื่อวานนี้(24) ประธานาธิบดี เออร์เนสต์ ไบ โกโรมา ได้ประกาศให้เขตพอร์ตโลโกและบอมบาลีทางตอนเหนือของประเทศ รวมไปถึงเขตโมยัมบาทางภาคใต้ เป็นพื้นที่ห้ามเข้า-ออก ส่งผลให้มีพลเมืองถูกกักอยู่ในพื้นที่มากถึง 1.2 ล้านคน
ก่อนหน้านี้ กรุงฟรีทาวน์เพิ่งจะประกาศพื้นที่กักกันในเขตเกเนมาและไกลาฮุนทางภาคตะวันออก ซึ่งเท่ากับว่าเวลานี้ชาวเซียร์ราลีโอนราว 1ใน 3 ของประเทศไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนโดยเสรีได้
“การประกาศปิดเขตปกครองและหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆ ย่อมสร้างความลำบากต่อประชาชนบ้าง แต่ชีวิตของพวกเราทุกคนและความอยู่รอดของประเทศชาติย่อมต้องสำคัญกว่าความทุกข์ยากเหล่านี้” โกโรมา กล่าว
“นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการทดสอบสำหรับทุกคนในประเทศ”
สถิติล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ทำให้มีผู้ติดเชื้อเกือบ 6,000 คนในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก และเกือบครึ่งหนึ่งเสียชีวิตแล้ว
เฉพาะในเซียร์ราลีโอนพบผู้ติดเชื้ออีโบลาทั้งหมด 1,813 ราย เสียชีวิตแล้ว 593 ราย
อีโบลาจัดเป็นไวรัสที่อันตรายต่อมนุษย์มากที่สุดชนิดหนึ่ง และสามารถทำให้ผู้ติดเชื้อล้มป่วยหนักภายในเวลาไม่กี่วัน โดยจะมีอาการปวดตามกล้ามเนื้อ อาเจียน ท้องร่วง และส่วนใหญ่จะมีเลือดออกตามผิวหนังและอวัยวะภายในร่วมด้วย