เอเอฟพี – องค์กรศาสนาอิสลามในออสเตรเลียเรียกร้องให้คนในสังคมอดกลั้นและงดใช้ความรุนแรงต่อกัน วันนี้ (24 ก.ย.) หลังปรากฏว่ามีชาวมุสลิมถูกทำร้ายร่างกายและมัสยิดหลายแห่งตกเป็นเป้าหมายโจมตีของประชาชนที่ชิงชังและต้องการแก้แค้นกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
มาเรียม เวสซาเดห์ ทนายความจากองค์กร Islamophobia Register ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า เมื่อไม่กี่วันมานี้มีการพบหัวหมูถูกเสียบบนไม้กางเขน มัสยิดบางแห่งถูกบุกรุกทำลาย และยังมีมือดีพ่นข้อความข่มขู่บนรถยนต์และทรัพย์สินอื่นๆของประชาชน
“ผู้หญิงหลายคนโดยเฉพาะที่สวมฮิญาบ รวมถึงเด็กๆ มุสลิมถูกด่าทอและขู่ทำร้าย” เธอกล่าว
“คุณแม่ชาวมุสลิมคนหนึ่งกับลูกๆ ที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกของซิดนีย์ถูกคนถ่มน้ำลายใส่และเตะรถเข็นเด็ก ส่วนที่เมืองเพิร์ทก็มีผู้ชายคนหนึ่งพยายามดึงผ้าคลุมออกจากศีรษะของหญิงมุสลิม”
ออสเตรเลียได้ประกาศยกระดับเตือนภัยและบังคับใช้กฎหมายต่อต้านก่อการร้ายอย่างเข้มงวดในระยะนี้ หลังทราบว่ามีพลเมืองราว 60 คนเดินทางไปต่อสู้ร่วมกับกลุ่มนักรบญิฮาดในอิรักและซีเรีย ซึ่งคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะกลับมาก่อเหตุรุนแรงในบ้านเกิด
ล่าสุดมีวัยรุ่นมุสลิมคนหนึ่งถูกตำรวจยิงเสียชีวิตเมื่อวานนี้ (23) ที่เมืองเมลเบิร์น หลังจากก่อเหตุแทงตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่หน่วยงานความมั่นคงได้บุกค้นบ้านต้องสงสัยในเมืองบริสเบน เพื่อสกัดแผนลักพาตัวและ “ฆ่าตัดหัว” พลเมืองแดนจิงโจ้แบบไม่เลือกหน้าของพวกสาวกไอเอส
นักรบไอเอสซึ่งได้บุกยึดดินแดนในอิรักและซีเรียอย่างกว้างขวาง และประกาศจัดตั้ง “รัฐอิสลาม” ที่ปกครองโดยระบอบคอลีฟะห์ เรียกร้องให้ชาวมุสลิมจับอาวุธสังหารพลเมืองออสเตรเลียแบบไม่ต้องเลือกว่าใครเป็นใคร และยังเอ่ยถึงเป้าหมายอื่นๆ ด้วย เช่น สหรัฐฯ แคนาดา และฝรั่งเศส ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียมองว่าคำขู่ของไอเอสครั้งนี้เป็นภัยคุกคามอย่างแท้จริง
อิบรอฮีม อบู โมฮัมหมัด แกรนด์มุฟตีแห่งออสเตรเลีย และผู้นำทางศาสนาคนอื่นๆ ได้ขอร้องให้ชุมชนมุสลิมปฏิเสธการข้องเกี่ยวกับกลุ่มไอเอส
“สิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นคำฟัตวา (คำตัดสินทางศาสนา) จากต่างชาติ ซึ่งระบุให้ออสเตรเลียเป็นเป้าหมายโจมตีนั้น ไม่มีผลบังคับในทางศาสนา และขอให้ชาวมุสลิมทั้งหลายปฏิเสธมัน” ถ้อยแถลงจากผู้นำศาสนาอิสลามในแดนจิงโจ้ระบุ
“ขอให้ทุกคนยึดถือความอดกลั้นและความเป็นพลเมืองดี อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้าครอบงำสามัญสำนึกได้”
การเสียชีวิตของอับดุล นูมาน ไฮเดอร์ วัย 18 ปี เมื่อวานนี้ (23) ทำให้หลายฝ่ายเกรงจะเกิดการโจมตีแก้แค้นชาวมุสลิมขึ้นอีก
ตำรวจออสเตรเลียเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ผู้นำชุมชนมุสลิมทราบไม่นานนักหลังจากที่วัยรุ่นคนดังกล่าวถูกวิสามัญ และจะพยายามประสานงานกับองค์กรมุสลิมอย่างใกล้ชิดต่อไป
“หลังจากนี้จะเกิดความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติขึ้นแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลย” เคน เลย์ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐวิกตอเรียระบุ
“จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องสนับสนุน และชี้แจงข้อมูลต่อชุมชนศาสนาต่างๆ ในรัฐวิกตอเรีย และเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แบ่งปันความกังวลกับเราด้วย”