xs
xsm
sm
md
lg

อนามัยโลกเตือนไม่รีบสกัด “อีโบลา” ผู้ติดเชื้อถึง 2 หมื่น พ.ย.นี้-เป็นแสนต้น ม.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซีส์ - จำนวนผู้ติดเชื้อ “อีโบลา” จะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัว หรือขึ้นสู่ระดับ 21,000 คนภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยที่ผู้ป่วยใหม่จะพุ่งพรวดขึ้นเป็นสัปดาห์ละหลายพันคน ถ้าหากไม่เร่งรีบยกระดับเพิ่มความพยายามในการยับยั้งควบคุมโรคขึ้นอีกอย่างมโหฬาร ทั้งนี้ เป็นคำเตือนของการศึกษาวิจัยซึ่งจัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก (ฮู) และอิมพีเรียล คอลเลจ ที่นำออกเผยแพร่ในวันอังคาร (23 ก.ย.)

“ถ้าเราไม่หยุดยั้งโรคระบาดนี้ให้ได้ในเร็ววันแล้ว การระบาดนี้ก็กำลังจะเปลี่ยนจากระดับภัยพิบัติไปสู่ระดับมหันตภัย” คริสโตเฟอร์ ดาย ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์ของ ฮู และเป็นผู้ร่วมเขียนรายงานการศึกษาฉบับนี้กล่าวที่นครเจนีวา

และหากไม่รีบควบคุมโรคให้อยู่หมัดแล้ว การระบาดก็อาจจะลากยาวต่อเนื่องไปเป็นปีๆ โดยที่เป็นไปได้ว่ามันจะฝังรากหยั่งลึกอยู่ในแอฟริกาตะวันตก จนถึงขณะนี้เชื้อไวรัสนี้ก็ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 2,800 คนแล้ว

“ถ้าไม่มีการปรับปรุงยกระดับมาตรการต่างๆ ในการควบคุมโรคกันอย่างมโหฬาร คาดหมายว่าจำนวนของผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตจากอีโบลาจะเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ จากระดับเรือนร้อยต่อสัปดาห์ กลายเป็นเรือนพันต่อสัปดาหภายในเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้” รายงานการศึกษาฉบับนี้ระบุ

ขณะที่ ดายกล่าวเพิ่มเติมระหว่างการแถลงข่าวที่เจนีวาว่า “พวกเรา (ผู้เขียนรายงานการศึกษาชิ้นนี้) ยังค่อนข้างบันยะบันยัง โดยเสนอการคาดการณ์ไปจนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายนเท่านั้น แต่ถ้าหากพวกคุณคำนวณต่อไป … ถึงวันที่ 2 มกราคม คุณก็จะได้ตัวเลขจำนวนเป็นแสนๆ คน”

โรคระบาดนี้อาจจะยังคง “อาละวาดต่อไปเรื่อยๆ ในระยะไม่กี่ปีต่อจากนี้ไป เหมือนกับที่มันอาละวาดอยู่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา” เขากล่าว พร้อมกับย้ำว่า “สิ่งที่เราจะต้องกลัวกันก็คือ อีโบลาจะมากจะน้อยมันจะกลายเป็นลักษณะที่ถาวรอย่างหนึ่งของประชากรมนุษย์ไปเลย”

นับจากที่มีรายงานผู้ติดเชื้ออีโบลาครั้งแรกของการระบาดระลอกนี้เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว จนถึงวันนี้คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในแอฟริกาตะวันตกอยู่ที่ 5,800 ราย และผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,800 ราย แม้ว่าช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากทั่วโลกจะเพิ่มความพยายามในการจัดหาความช่วยเหลือ แต่อีโบลายังคงระบาดไม่หยุด เนื่องจากประเทศที่โรคนี้ลุกลามอย่างหนัก ได้แก่ กีนี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรียนั้น ขาดแคลนทั้งเตียงผู้ป่วย บุคลากร หรือกระทั่งสบู่และน้ำ

สัปดาห์ที่แล้ว อเมริกาประกาศจะสร้างศูนย์บำบัดรักษาเพิ่มกว่าสิบแห่งในไลบีเรีย รวมทั้งส่งทหาร 3,000 คนไปช่วย ด้านอังกฤษและฝรั่งเศสมีแผนสร้างศูนย์รักษาในเซียร์ราลีโอน และกินี ขณะที่ธนาคารโลกและยูนิเซฟจัดส่งสัมภาระและอุปกรณ์สนับสนุนไปยังภูมิภาคดังกล่าวมูลค่ากว่า 1 ล้านดอลลาร์

รายงานการศึกษาล่าสุดที่ ดาย แห่งองค์การอนามัยโลก ร่วมจัดทำกับผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ กรุงลอนดอน และเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ “นิวอิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซิน” นั้น จัดทำขึ้น 6 เดือนหลังพบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกในวันที่ 23 มีนาคม ทั้งนี้รายงานคาดการณ์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นจากระดับหลักร้อยเป็นหลักพันต่อสัปดาห์ โดยที่เมื่อถึงช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ยอดผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันและสงสัยว่าติดเชื้อใน 3 ประเทศที่มีการระบาดหนัก จะทะลุ 21,000 คน เว้นแต่จะสามารถกักกันผู้ป่วย ติดตามต้นตอในการแพร่เชื้อ และได้รับความร่วมมือจากชุมชน

ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อใหม่ 10,000 รายจะอยู่ในไลบีเรีย, 5,000 รายในเซียร์ราลีโอน และเกือบ 6,000 รายในกินี

ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ การพบผู้ติดเชื้อใหม่ในบริเวณที่อีโบลาไม่เคยระบาดมาก่อน เช่น บางพื้นที่ในกินี โดยที่ดายยังตั้งข้อสังเกตว่า ขอบเขตการระบาดเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวในทุก 3 สัปดาห์

อย่างไรก็ดี เขาสำทับว่าหากการควบคุมประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ อีโบลาจะหายไปจากประชากรมนุษย์ในแอฟริกาตะวันตกและกลับสู่สัตว์ที่เป็นแหล่งรังโรค ซึ่งในกรณีอีโบลาอาจเป็นค้างคาวผลไม้

แต่หากการควบคุมสำเร็จเป็นบางส่วน อีโบลาจะยังคงระบาดในหมู่ประชากรมนุษย์ในลักษณะที่กลายเป็น “ลักษณะถาวรของชีวิตมนุษย์ในแอฟริกาตะวันตก” ก่อนที่จะสูญพันธุ์ไปในอนาคต

ข่าวดีในขณะนี้คือ ไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ในไนจีเรียหรือเซเนกัลในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับระยะเวลาฟักตัวของไวรัสนี้คือ 21 วัน

นอกจากฮูแล้ว ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่พยายามคำนวณความรุนแรงในการระบาดของอีโบลาในไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน

ในรายงานที่ซีดีซีเตรียมเผยแพร่ในวันอังคาร (23) นั้นสรุปว่า อาจมีผู้ป่วยทั้งที่ได้รับการรายงานและไม่มีการรายงานถึง 21,000 รายใน 2 ประเทศดังกล่าว ณ สิ้นเดือนนี้ และตัวเลขอาจเพิ่มเป็น 550,000-1.4 ล้านคนในช่วงปลายเดือนมกราคมปีหน้า โดยการคำนวณของซีดีซีบางส่วนอิงกับสมมติฐานที่ว่า มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่ไม่ได้รับการรายงาน

อย่างไรก็ดี ดร.ริชาร์ด เวนเซล นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย คอมมอนเวลธ์ ที่เคยเป็นผู้อำนวยการอินเตอร์เนชันแนล โซไซตี้ ฟอร์ อินเฟกเชียส ดิซีส ตั้งข้อสังเกตว่า การประเมินของซีดีซีเป็นการมองแง่ลบเกินไป และไม่พิจารณาความพยายามในการควบคุมการติดเชื้อประกอบด้วย

ขณะเดียวกัน ดร.อาร์มันด์ สปรีเชอร์ จากกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน ตั้งคำถามเกี่ยวกับการประเมินของฮู และว่า ที่สุดแล้วการระบาดของอีโบลาไม่ได้ชะลอลงจากมาตรการควบคุมเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นผลจาการเปลี่ยนพฤติกรรมของคน เช่น การเลิกสัมผัสตัวผู้ป่วย นอกจากนั้นโดยปกติแล้วโรคที่ปรากฏอยู่ในสภาพแวดล้อม มักมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองกระทั่งมีอันตรายน้อยลงหรือมีความสามารถในการระบาดลดลง
กำลังโหลดความคิดเห็น