เอเจนซีส์ - ความคืบหน้าล่าคดีสังหารเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปี และฮันนาห์ วิเทอริดจ์วัย 23 ปี สื่ออังกฤษหนังสือพิมพ์เดอะเทเลกราฟรายงานว่า มีเบาะแสใหม่หลังจากพบว่าคืนก่อนวันที่นักท่องเที่ยวทั้งสองถูกสังหาร มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษถูกแก๊งมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่ปล้นใกล้กับบริเวณที่วิเทอริดจ์เสียชีวิตและ ศพของเธอถูกส่งกลับอังกฤษแล้ว
หนังสือพิพม์เทเลกราฟรายงานเมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) ว่า เบาะแสใหม่ออกจากเพื่อนของผู้เสียชีวิต เจมส์ ไอแซกส์ (James Isaacs) นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษให้รายละเอียดในวันอาทิตย์ (21) ว่า คืนก่อนที่ฮันนาห์ วิเทอริดจ์ วัย 23 ปีจะถูกสังหาร มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษ 2 รายถูกแก๊งมอเตอร์ไซค์ปล้นบริเวณหาดทรายรี ซึ่งเป็นหาดเดียวกับที่ฮันนาห์ วิเทอริดจ์และเดวิด มิลเลอร์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษวัย 24 ปี ถูกฆ่าในวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พบว่านักท่องเที่ยวอังกฤษคู่นั้นต้องเสียทรัพย์สินส่วนตัวไปรวมถึงกระเป๋า กล้องถ่ายรูป และโทรศัพท์ไอโฟนให้กับกลุ่มชายไทยไม่ทราบชื่อ 4 คน
เดอะเทเลกราฟยังรายงานเพิ่มเติมว่า เบาะแสใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากบทบรรณาธิการของบางกอกโพสต์ หนังสือพิมพ์ไทยภาคภาษาอังกฤษชั้นนำฉบับหนึ่งโจมตีการทำงานของตำรวจไทยว่า การสอบสวนคดีฆ่านักท่องเที่ยวอังกฤษนั้นตำรวจไทย “ทำคดีแบบเร่งรีบ ไม่ครอบคลุม และเต็มไปด้วยการคาดเดา”
และตำรวจไทยยืนยันว่าในขณะกำลังดูถึงความเชื่อมโยงระหว่าง “ชายไทย” และ “เหยื่อนักท่องเที่ยวอังกฤษ” ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สอบสวนได้พุ่งเป้าไปที่ผู้ต้องสงสัย “แก๊งที่มีสมาชิกอย่างน้อย 3 คน” โดยสื่อไทย บางกอกโพสต์ หนังสือพิมพ์ไทยภาคภาษาอังกฤษรายงานว่า ในขณะนี้ตำรวจไทยกำลังตามล่าชายไทย 1 คน และแรงงานพม่าอีก 1 คนในฐานะผู้ต้องสงสัย
โดยไอแซกส์ให้สัมภาษณ์กับบางกอกโพสต์ ว่า “อาจจะเป็นพวกเขา เพราะมันเกิดเหตุเกือบที่เดียวกัน” ด้าน พ.ต.ท.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า ยังไม่สามารถยืนยันในขณะนี้ได้ว่า ทางทีมสอบสวนทราบถึงเหตุการณ์ปล้น หรือในขณะนี้ทางทีมสอบสวนกำลังสืบประเด็นนี้อยู่ เพราะบางครั้งหลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวไม่ได้แจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่
ร่างของมิลเลอร์และวิเทอริดจ์ถูกพบบนชายหาดทรายรีก่อนรุ่งสางในวันที่ 15 กันยายน ซึ่งผ่านมาเกือบสัปดาห์แต่ทางไทยยังไม่สามารถออกหมายจับใครได้
ในวันอาทิตย์ (21) ถือเป็นครั้งแรกที่ทางทีมสืบสวนยืนยันว่ากำลังสอบสวนถึงประเด็นที่เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองถึงเกี่ยวพันกับชายไทยไม่ทราบชื่อคนหนึ่งที่พบพูดจาข่มขู่วิเทอริดจ์ในบาร์ไม่นานก่อนที่เธอจะถูกสังหาร โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ร้องขอให้พยานที่รู้เห็นให้ออกมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่แต่ทว่าเดอะมิเรอร์ สื่ออังกฤษรายงานว่า “หากคนร้ายเป็นคนในพื้นที่เกาะเต่าจริง ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่จะปิดปากเงียบในเรื่องนี้เพราะเกาะเต่าเป็นที่ง่ายต่อการเกิดอาชญากรรมรุนแรง”
โดยในวันเสาร์ (20) ทางเจ้าหน้าที่ได้แสดงภาพจากกล้องวงจรปิดชี้ว่า ทั้งมิลเลอร์และวิเทอริดจ์นั้นแยกกันเดินเที่ยวตามบาร์ต่างๆ ในวันที่ 14 กันยายน โดยมิลเลอร์เดินตามลำพังในขณะที่วิเทอริดจ์เดินกับกลุ่มเพื่อนของเธอ และในภาพกล้องวงจรปิดเห็นมิลเลอร์ได้จับมือกับชายในพื้นที่คนหนึ่งที่สวมเสื้อเจอร์ซีสีแดงและมีหมายเลข 9ติดอยู่ด้านหลังของตัวเสื้อ
ทั้ง เดวิด มิลเลอร์ และฮันนาห์ วิเทอริดจ์ได้เข้าไปในบาร์ไม่ต่ำกว่า 2 แห่งก่อนที่จะถูกพบเป็นศพ คนทั้งคู่ได้เข้าไปที่ “ชอปเปอร์ส” ซึ้งเป็นสปอร์ตพับบาร์สไตล์ออสเตรเลียที่คนทั้งคู่นั่งชมการแข่งขันของทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และทั้งมิลเลอร์และวิเทอริดจ์ได้เข้าไปใช้บริการ “บาร์เอซี ” ที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ของพวกคอทองแดง รวมถึงมีเรื่องชกต่อย และการแสดงโชว์โยนไฟ
เดลิเมล สื่ออังกฤษอีกฉบับ รายงานถึงการให้ข้อมูลของเพื่อนจากฝั่งมิลเลอร์กับตำรวจไทยว่า เดวิดบอกกับพวกเขาว่ากำลังจะไปหาซื้อบุหรี่ แต่เพื่อนอีกคนของมิลเลอร์เสริมว่า แท้จริงแล้วมิลเลอร์ตรงไปยังบาร์เอซี เพื่อพบกับวิเทอริดจ์และเพื่อนของเธอ เอมมี แมเดลีน (Emma Madeline) และภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นภาพของมิลเลอร์กำลังเดินอยู่ตามลำพังออกมาจากไนต์คลับเวลา 01.26 น. และเดินย้อนกลับไปในเวลา 01.57 น.ในวันที่ 15 กันยายน ซึ่งเพื่อนของมิลเลอร์อ้างว่าทั้งมิลเลอร์และวิเทอริดจ์ออกมาจากคลับทั้งคู่ในเวลา 03.00-04.00น. หลังจากนั้นร่างของคนทั้งคู่ถูกพบในเวลา 06.00 น.บนหาดทรายรี วันเดียวกัน เดลิเมลสื่ออังกฤษรายงาน
และเดอะเทเลกราฟยังรายงานเพิ่มเติมว่า สื่อไทยรายงานว่าในวันศุกร์ (19) ที่ผ่านมาว่า ได้มีการเข้าบุกจับบาร์เอซี และมีการพบสารยาเสพติดและสารอื่นๆ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยืนยันในรายงานข่าวชิ้นนี้
“ประเด็นชู้สาว” ดูเหมือนเป็นเหตุจูงใจในคดีนี้ พ.ต.ท.กฤษณะกล่าว และเสริมต่อว่าอาจมีความเป็นไปได้ว่าคนร้ายจะเป็นลูกเรือประมงที่ว่ายน้ำจากเรือขึ้นสู่ฝั่งและก่อเหตุ
โดยเดอะออสเตรเลีย สื่อออสเตรเลีย รายงานวันนี้(22)ว่า ทางไทยชี้ว่า มีหลักฐานใหม่เกิดขึ้นซึ่งอาจนำไปสู่ผู้ต้องสงสัยที่คาดว่า “อาจมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนก่อนคืนเกิดเหตุ” กับวิเทอริดจ์หรือเพื่อนหญิงของเธอ หรือกับมิลเลอร์เหยื่อผู้เสียชีวิตอีกคน
อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษตั้งคำถามถึงการทำงานของตำรวจไทย อาทิ เหตุใดทางเจ้าหน้าที่ไม่ปิดตายบริเวณที่เกิดเหตุ เพราะในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวยังคงไปอาบแดดใกล้กับบริเวณที่พบศพผู้เสียชีวิต รวมถึงหนึ่งในอาวุธที่ถูกใช้สังหารเหยื่อซึ่งห่างไปไม่กี่หลาเท่านั้น รวมไปถึงนักธุรกิจต่างชาติในพื้นที่อ้างว่าตำรวจไทยอนุญาตให้เรือประมงแล่นเรืออกนอกพื้นที่ได้โดยไม่ทำอะไร
ทั้งนี้ บทบรรณาธิการของบางกอกโพสต์ชี้ว่า “ประสิทธิภาพของความเป็นมืออาชีพของตำรวจไทยในภาพรวมถูกวัดได้จากคดีสังหารนักท่องเที่ยวบนเกาะเต่าที่พลาดอย่างไม่น่าให้อภัย โดยการให้ข้อมูลสำคัญที่ผิดกับสื่อเกี่ยวกับรูปพรรณของคนร้าย “มันต้องเป็นฝันร้ายของครอบครัวและเพื่อนผู้สูญเสียที่รับทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยรายละเอียดที่สำคัญในเกี่ยวกับคดีและคาดว่าเหยื่ออาจถูกข่มขืน พร้อมทั้งอ่านรายงานการชันสูตรศพ รวมไปถึงสันนิษฐานว่ากาเกงของเหยื่อนั้นเปื้อนเลือดซึ่งภายหลังกลับพบเป็นเพียง “คราบดินโคลน” ซึ่งน่าเสียใจที่ต้องยอมรับว่านี่เป็นการทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพของตำรวจที่ทุกคนในประเทศนี้ต่างรับรู้อยู่แล้ว”
และบทบรรณาธิการของบางกอกโพสต์ยังเสริมว่า นอกจากนี้ดูเหมือนว่าทางตำรวจจะพุ่งประเด็นความสนใจไปที่ “สิ่งที่ตนเองเชื่อ” มากกว่า “หลักฐานรูปคดี” โดยการโยนความผิดไปให้กับแรงงานพม่ามากกว่าคนไทยในพื้นที่เกาะเต่า “แน่นอนที่สุดว่าการแถลงออกมาถึงคนร้ายที่คาดว่าน่าจะเป็นแรงงานพม่านั้นด่วนสรุปจนเกินไป
สื่ออังกฤษ เดลิเมล์รายงานล่าสุดว่า หลังจากที่ตำรวจไทยถูกตำหนิในการสอบสวนที่มีทิศทางไม่แน่นอน ล่าสุดสกอตแลนด์ยาร์ดได้ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมกับฝ่ายไทยในการพิสูจน์หาความกระจ่างของคดีแล้ว
ด้านครอบครัวของวิเทอริดจ์เปิดแถลงหลังจากนำศพของฮันนาห์ วิเทอริดจ์กลับถึงอังกฤษว่า ทางครอบครัวรู้สึกโล่งใจที่สามารถนำร่างของฮันนาห์กลับบ้านได้ในที่สุด และทางครอบครัวจะยังให้ความร่วมมือเต็มที่กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อคืนความยุติธรรมให้เธอ แต่อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัววิเทอริดจ์ยังอยู่ในความเศร้าเนื่องมาจากความสูญเสีย จึงขอเวลาสำหรับความเป็นส่วนตัวในเรื่องนี้