สุราษฎร์ธานี - ตำรวจสอบเครียดลูกเรือสปีดโบตผู้ต้องสงสัยฆ่าโหด 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษ เบื้องต้นปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่พบกางเกงขาสั้นเปื้อนคล้ายเลือด 2 ตัว ส่งตรวจดีเอ็นเอ ด้านสื่อเมืองผู้ดีเสนอข่าว 2 นักท่องเที่ยวถูกแก๊งมอเตอร์ไชค์ฆ่าชิงทรัพย์ ตำรวจปัดไม่ทราบข้อมูลดังกล่าว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (22 ก.ย.) พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบช.ภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางมาที่ สภ.เกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อสอบถาม พ.ต.อ.พยุงศักดิ์ สุรินทร์ ผกก.สภ.เกาะสมุย และพนักงานสอบสวน ถึงคดีจับกุม นายเลอพงษ์ หรือแน็ก สุขสมบูรณ์ อายุ 27 ปี ชายไทยที่มีอาการเมายาแล้วไปหลบอยู่ในถ้ำที่เกาะสมุย และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยชายไทยอีก 2 คน ซึ่งทั้ง 3 คน เป็นลูกเรือสปีดโบตที่พานักท่องเที่ยวไปดำน้ำที่เกาะเต่ามาสอบปากคำ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่าหรือไม่
โดยการสอบสวน นายเลอพงษ์ ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า แต่ยอมรับว่าเสพยาไอซ์ จากนั้นตำรวจจึงได้ทำการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสีม่วง เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติดและมีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนผู้ต้องสงสัยลูกเรือสปีดโบตอีก 2 คน ที่เป็นเพื่อนกับนายเลอพงษ์ ก็ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นต่อคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า โดยในเวลาดังกล่าวทั้ง 2 คน ได้พักอยู่ที่เกาะสมุย ซึ่งมีหลักฐานใบบันทึกเวลาเข้าออกงานมายืนยันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุด จากการตรวจที่พักของลูกเรือสปีดโบตทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่พบหลักฐานเป็นกางเกงขาสั้นเปื้อนคล้ายเลือด 2 ตัว จึงนำกางเกงดังกล่าวส่งไปตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกับเหยื่อชาวอังกฤษหรือไม่
ขณะที่สื่ออังกฤษนำเสนอข่าวที่ว่า มีพยานพบเห็นเหตุการณ์ว่ามีแก๊งมอเตอร์ไซค์ 4 คนเป็นชาย เข้าไปปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษรายนี้ ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด โทรศัพท์มือถือไป และนักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษผู้ตาย ได้ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ และเข้าช่วยเหลือจนถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตทั้ง 2 คน เมื่อผู้สือข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.เกาะพะงัน ได้เผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานข้อมูลนี้ ไม่ทราบว่าสื่อของอังกฤษได้ข้อมูลมาจากไหน อย่างไรก็ตาม จะได้สอบถามชุดสืบสวนในพื้นที่อีกครั้ง ส่วนทรัพย์สินมีค่า เงินสดของผู้ตายทั้ง 2 คนยังอยู่ครบ จะมีเพียงโทรศัพท์มือถือของนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษรายเดียวที่หายไป