เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีจอห์น คีย์แห่งนิวซีแลนด์ และพรรคการเมืองสายอนุรักษ์นิยมภายใต้การนำของเขาอย่าง “เนชันแนล ปาร์ตี้” คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเป็นสมัยที่ 3 ในวันเสาร์ (20 ก.ย.)
ผลการเลือกตั้งทั่วไปในนิวซีแลนด์ระบุ พรรคเนชันแนลของนายกรัฐมนตรีจอห์น คีย์ สามารถคว้าได้ 61 จาก 121 ที่นั่งในรัฐสภา ถือเป็นการคว้าที่นั่งได้เพิ่มขึ้น 2 ที่นั่งจากการเลือกตั้งคราวก่อนในปี 2011
ขณะที่พรรคเลเบอร์ที่เป็นฝ่ายค้านหลักภายใต้การนำของนายเดวิด คันลิฟฟ์ สามารถคว้าที่นั่งในการเลือกตั้งหนนี้ได้เพียง 32 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งถือเป็นผลการเลือกตั้งที่ย่ำแย่เลวร้ายที่สุดของพรรคเลเบอร์ นับตั้งแต่ทศวรรษ 1920 เป็นต้นมา
ผลการเลือกตั้งที่ออกมาเท่ากับเป็นการเปิดทางให้คีย์ในวัย 53 ปีได้ครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 38 ของนิวซีแลนด์แบบผูกขาดต่อไป หลังจากที่เขาก้าวขึ้นสู่อำนาจเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2008 นอกจากนั้น การเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนี้ยังถือเป็นการเลือกตั้งหนที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่พรรคเนชันแนล ปาร์ตี้ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองสายกลาง-ขวา ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังทราบผลการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีคีย์ออกมากล่าวต่อผู้สนับสนุนโดยระบุว่า นี่คือค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ พร้อมให้คำมั่นจะเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไป
ด้านเดวิด คันลิฟฟ์ ผู้นำพรรคเลเบอร์ที่กำลังถูกตั้งคำถามถึงอนาคตทางการเมืองนับจากนี้ ออกมาประกาศว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเร่งฟื้นฟูพรรคของตนที่เป็นฝ่ายกลาง-ซ้ายขึ้นมาใหม่ และย้ำว่านี่ไม่ใช่เวลาที่สมาชิกพรรคจะตำหนิติเตียนและโยนความผิดให้กันและกัน
นอกเหนือจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่ดังกล่าว พรรคการเมืองขนาดเล็กอย่าง “นิวซีแลนด์ เฟิสต์ ปาร์ตี้” สามารถคว้าที่นั่งในรัฐสภาได้เพิ่มขึ้นเป็น 11 ที่นั่ง เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อนที่คว้ามาได้ 7 ที่นั่ง ขณะที่พรรคการเมืองซึ่งชูนโยบายปกป้องสภาพแวดล้อมอย่างพรรคกรีนส์ได้คะแนนเสียงเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนโหวตทั้งหมด ถือเป็นผลการเลือกตั้งที่ต่ำกว่าเป้าหมายของพรรค
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนแห่งสหราชอาณาจักรได้กล่าวผ่าน “ทวิตเตอร์” แสดงความยินดีต่อชัยชนะในการเลือกตั้งสมัยที่ 3 ของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ พร้อมกล่าวชื่นชมแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยมของผู้นำแดนกีวี