รอยเตอร์ – หนุ่มชาวอเมริกันที่เพิ่งถูกศาลเกาหลีเหนือตัดสินใช้แรงงานหนัก 6 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อ้างว่าตนล่วงรู้ “ความลับของรัฐบาลสหรัฐฯ” และจงใจสร้างสถานการณ์ให้ถูกจับเพียงเพราะ “อยากดัง” และเพื่อจะได้เข้าเรือนจำไปพบ เคนเนธ แบ ชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีที่ถูกรัฐบาลโสมแดงกักขังเอาไว้ตั้งแต่ปี 2012
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานวันนี้(20)ว่า แมทธิว มิลเลอร์ วัย 25 ปี จากเมืองเบเกอร์สฟิลด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้า และเขียนในสมุดบันทึกว่าเขาจะขอลี้ภัยในเกาหลีเหนือ หลังไม่สามารถล้วงความลับของรัฐบาลอเมริกันได้อย่างที่ตั้งใจ
“เขาได้กระทำการอย่างที่กล่าวไปข้างต้น โดยหวังว่าจะมีชื่อเสียงระดับโลกเป็น สโนว์เดน 2” เคซีเอ็นเอรายงาน โดยอ้างถึง เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) ซึ่งกำลังถูกอเมริกาตามล่าตัวมารับโทษฐานเปิดโปงโครงการสอดแนม
“นี่เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ดังนั้นเขาจึงสมควรถูกลงโทษ”
มิลเลอร์ ถูกเจ้าหน้าที่โสมแดงจับกุมหลังฉีกวีซานักท่องเที่ยวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเมื่อเดือนเมษายน หลังจากนั้นจึงถูกตัดสินใช้แรงงานหนักเป็นเวลา 6 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว(14)
“ผลการสอบสวนสรุปชัดเจนว่า เขาไม่ได้ทำลงไปเพราะความไม่เข้าใจ หรือมีอาการทางจิต แต่จงใจก่ออาชญากรรมเพื่อจะได้เข้าคุก” เคซีเอ็นเอ ระบุ
กรณีของ มิลเลอร์ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะบังเอิญเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี กล่าวปรามาสเกาหลีเหนือว่าเป็น “ประเทศแห่งความชั่วร้าย”
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เคร์รี ได้ประณามโสมแดงว่าเป็น “สถานที่แห่งความชั่ว” หลังมีรายงานจากคณะผู้ตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเกาหลีเหนือสมควรถูกดำเนินอาญาฐานสร้างความอดอยาก ทรมาน และกักขังหน่วงเหนี่ยวพลเมืองโสมแดงอย่างเป็นระบบ
เคซีเอ็นเอ ชี้ว่า มิลเลอร์ จงใจล่อให้ตำรวจจับเพื่อจะได้เข้าไปสำรวจสภาพเรือนจำและสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ นอกจากนี้เขายังต้องการเข้าพบและเจรจาขอปล่อยตัว แบ ซึ่งถูกศาลโสมแดงตัดสินใช้แรงงานหนัก 15 ปีฐานพยายามล้มล้างระบอบคิม
เป็นที่น่าสังเกตว่า ประวัติความเป็นมาของ มิลเลอร์ ไม่ได้รับการเปิดเผยมากนัก และครอบครัวของเขาในสหรัฐฯ ก็ไม่ออกมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อด้วย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในสัปดาห์นี้ว่า มิลเลอร์ เคยพำนักอยู่ในเกาหลีใต้หลายเดือน โดยอ้างว่าตนเป็นชาวอังกฤษชื่อ “เพรสตัน โซเมอร์เซ็ต” และได้อุทิศทั้งเวลาและเงินทองจ้างศิลปินหลายคนมาช่วยเนรมิตการ์ตูน “อลิซในดินแดนมหัศจรรย์” ตามแบบที่เขาชอบ หลายคนที่เคยรู้จัก มิลเลอร์ บอกว่าเขาคลั่งไคล้นวนิยายแฟนตาซีของ ลิวอิส แคร์รอลล์ เรื่องนี้มาก
มิลเลอร์ ดูเหมือนจะไม่มีเพื่อนสนิท และไม่มีงานประจำหรือแหล่งรายได้อะไรในช่วงที่เขาพำนักอยู่ในกรุงโซล และไม่เคยแสดงออกว่าสนใจเรื่องเกาหลีเหนือมาก่อน
นอกจาก มิลเลอร์ และ แบ แล้ว ยังมีชาวอเมริกันรายที่ 3 ซึ่งอยู่ในความควบคุมของเกาหลีเหนือ ได้แก่ เจฟฟรีย์ ฟาวล์ ซึ่งถูกจับฐานทิ้งคัมภีร์ไบเบิลเอาไว้ในโรงแรมที่พักในเมืองชองจิน
สหรัฐฯ กล่าวหาว่าเกาหลีเหนือใช้พลเมืองอเมริกันเป็นเครื่องมือต่อรอง เพื่อบีบให้วอชิงตันส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไปเจรจาด้วย
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เคยเสนอที่จะส่ง โรเบิร์ต คิง ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนเกาหลีเหนือเข้าไปเจรจาขอปล่อยตัว มิลเลอร์ แบ และ ฟาวล์ ทว่าเปียงยางก็ปฏิเสธมาโดยตลอด