เอเอฟพี - ออสเตรเลียจัดกำลังตำรวจติดอาวุธเข้ามาประจำการที่รัฐสภาในวันนี้ (19 ก.ย.) เพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามของกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) หลังจากที่ได้ทลายแผนการก่อเหตุร้ายของนักรบญิฮัด ที่หวังจะเชือดไก่ให้ลิงดูด้วยการสังหารโหดผู้คนในแดนจิงโจ้
นายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ ได้เรียกประชุมฉุกเฉินคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ หลังจากที่ได้กำชับชาวออสเตรเลียว่าอย่าได้หวั่นเกรงเกี่ยวกับแผนการก่อเหตุสังหารโหดของนักรบญิฮัดไอเอส
“เจ้าหน้าที่รัฐบาลทุกระดับพร้อมจะทำทุกวิถีทางเท่าที่มนุษย์จะทำได้ เพื่อให้ชุมชนของเราได้รับความปลอดภัย” เขากล่าวในการแถลงข่าว
“วิธีที่ดีที่สุดสำหรับชาวออสเตรเลียที่จะตอบโต้การข่มขู่ของผู้ก่อการร้ายก็คือใช้ชีวิตตามปกติต่อไป เพราะพวกผู้ก่อการร้ายต้องการทำให้เรากลัวจนเสียขวัญ” เขากล่าว
“จากนี้จะมีตำรวจสหพันธรัฐประจำอยู่ทั้งในและรอบๆ อาคารรัฐสภาตลอดเวลา” แอ็บบอตต์ ระบุหลังจากที่ได้รู้ว่ามีการคุกคามเจ้าหน้าที่รัฐบาลและบรรดาผู้แทนฯ
แอ็บบอตต์ปฏิเสธที่จะระบุว่าการคุกคามครั้งล่าสุดนี้มีความเชื่อมโยงกับการที่ออสเตรเลียเข้าไปมีบทบาทในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามในอิรัก เขายังบอกอีกว่าไม่ควรใช้คำว่ารัฐกับกลุ่มดังกล่าว พร้อมตราหน้าว่าคนพวกนี้เป็นแค่กลุ่มลัทธิที่นิยมการเข่นฆ่าเท่านั้น
ทั้งนี้ ออสเตรเลียได้ให้การสนับสนุนแนวร่วมพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ โดยมีการจัดส่งทหาร 600 นายพร้อมเครื่องบินรบเพื่อใช้ถล่มกลุ่มไอเอสในอิรัก
การประชุมฉุกเฉินพร้อมจัดกำลังตำรวจมาประจำที่รัฐสภา เกิดขึ้นหลังจากที่ออสเตรเลียได้ใช้กำลังตำรวจหลายร้อยนายเข้าตรวจค้นช่วงก่อนรุ่งสาง ทั่วพื้นที่ซิดนีย์และบริสเบน จนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 15 ราย
ในบรรดาผู้ที่ถูกควบคุมตัว มีผู้ได้รับการปล่อยตัว 9 ราย มีผู้ที่ถูกตั้งข้อหาว่ามีความผิดฐานเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย 1 ราย และมีการยึดอาวุธปืนได้อย่างน้อย 1 กระบอกพร้อมกับดาบ