xs
xsm
sm
md
lg

ออสซีสกัด “แผนก่อการร้าย” ครั้งใหญ่ ระบุ IS สั่งให้ “ฆ่าตัดหัว” ไม่เลือกหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจออสเตรเลีย ยืนอยู่ใกล้ๆ ผู้ต้องหารายหนึ่ง (ซ้าย) ซึ่งถูกจับกุมในระหว่างการบุกจู่โจมบ้านหลังหนึ่งทางด้านตะวันตกของเมืองซิดนีย์เมื่อตอนก่อนรุ่งสางวันพฤหัสบดี (18) ตามภาพที่เผยแพร่โดยตำรวจรัฐบาลกลางออสเตรเลียภาพนี้  ทางการแดนจิงโจ้ระบุว่าการปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุดคราวนี้ สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้ 15 คน
เอเอฟพี - ทางการออสเตรเลีย ออกปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.) โดยจู่โจมจับกุมผู้ต้องหารวม 15 คน และทำลายแผนการก่อเหตุสยดสยองของกลุ่มนักรบญิฮัด “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ซึ่งจะมี “การฆ่าเพื่อสาธิต” ด้วยการตัดคอประชาชนแบบไม่เลือกหน้า แล้วถ่ายคลิปวิดีโอนำไปเผยแพร่

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงออสเตรเลียกว่า 800 คน ได้เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยทั่วเมืองซิดนีย์และเมืองบริสเบน ตั้งแต่ก่อนฟ้าสาง โดยมีการออกหมายค้นบ้าน 25 หลัง และตั้งข้อหาก่อการร้ายกับผู้ต้องหา 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่ยังยึดของกลางเป็นปืนอย่างน้อย 1 กระบอก และดาบอีก 1 เล่ม

ผู้ต้องหาชื่อ โอมาร์จัน อาซารี วัย 22 ปี ได้ถูกนำตัวขึ้นศาลในเมืองซิดนีย์ตอนช่วงบ่ายวันเดียวกัน โดยเขาถูกฝ่ายอัยกรตั้งข้อหาวางแผนกระทำการก่อการร้าย ซึ่งมุ่งที่จะทำให้สาธารณชนเกิดความรู้สึก “ช็อก, สยดสยอง และหวาดกลัว” ทั้งนี้ศาลได้สั่งให้ควบคุมตัวเขาเอาไว้ต่อไปในระหว่างการสอบสวน

อัยการระบุในข้อกล่าวหาว่า อาซารีได้รับคำสั่งให้ก่อเหตุสยดสยองชั่วร้าย ในระหว่างที่เขาติดต่อทางโทรศัพท์เมื่อเร็วๆ นี้กับโมฮัมหมัด บาร์ยาเลย์ บุคคลสัญชาติออสเตรเลียที่เกิดในอัฟกานิสถาน และเป็นชาวออสซี่ซึ่งมีตำแหน่งสูงที่สุดในกลุ่มไอเอส

ไมเคิล ออลนุตต์ อัยการในคดีนี้กล่าวหาว่า ตามแผนที่จะกระทำกันนี้จะมีการ “เลือกสุ่มเอาบุคคลต่างๆ มาประหารชีวิตด้วยวิธีอันน่าสะอิดสะเอียน” โดยจะมีการถ่ายวิดีโอเอาไว้ด้วย รวมทั้งยังจะมี “การแสดงความบ้าคลั่งในระดับยิ่งกว่าธรรมดา”

ขณะที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ออสเตรเลีย (เอบีซี) รายงานว่า คลิปวิดีโอเหล่านี้จะถูกจัดส่งออกไปยังหน่วยงานด้านสื่อของกลุ่มไอเอสในซีเรีย

การจู่โจมจับกุมแบบสายฟ้าแลบคราวนี้ มีขึ้นไม่ถึง 1 สัปดาห์ หลังจากออสเตรเลียประกาศยกระดับภัยคุกคามก่อการร้าย จากขั้น “กลาง” เป็น ขั้น “สูง” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ท่ามกลางความหวั่งเกรงอันตรายจากพวกนักรบอิสลามิสต์ที่กลับจากไปร่วมต่อสู้ในอิรักและซีเรีย

ทางด้านนายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์ แถลงว่า เขาได้รับการบรรยายสรุปจากหน่วยข่าวกรองซึ่งระบุว่า พวกนักรบไอเอสสั่งการให้ฆ่าตัดคอประชาชนในแดนจิงโจ้

“นี่เป็นข่าวกรองที่เราได้รับมา” เขากล่าว ซึ่งทำให้นึกไปถึงกรณีของ ลี ริกบี นายทหารอังกฤษที่ถูกคนร้ายซึ่งเป็นมุสลิม 2 รายสังหารโหด และพยายามตัดศีรษะกลางถนนในกรุงลอนดอนเมื่อปีที่แล้ว

“การกระตุ้นชักชวน ซึ่งเป็นการกระตุ้นชักชวนกันอย่างค่อนข้างตรงไปตรงมาทีเดียวนี้ ออกมาจากชาวออสเตรเลียผู้ซึ่งดูเหมือนจะมีฐานะค่อนข้างอาวุโสใน ไอเอสไอแอล (ชื่อเดิมของกลุ่มไอเอส) และส่งไปถึงพวกเครือข่ายผู้สนับสนุนที่อยู่ในออสเตรเลีย ให้ทำการฆ่าเพื่อสาธิตกันที่นี่ ในประเทศนี้แหละ” แอ็บบอตต์กล่าวต่อ

“ดังนั้นนี่จึงไม่ได้เป็นเพียงข้อสงสัย แต่นี่เป็นเจตนาที่จะทำกันจริงๆ และเป็นเหตุผลที่ทำให้ตำรวจตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ ตัดสินใจลงมือปฏิบัติการอย่างที่ได้กระทำไป”

รัฐบาลออสเตรเลียเชื่อว่า อาจมีพลเมืองออสซีถึง 60 รายที่เดินทางไปร่วมต่อสู้กับกลุ่มไอเอสอยู่ในเวลานี้ และยังมีอีกราวๆ 100 คนที่เคลื่อนไหวสนับสนุนไอเอสอยู่ในแดนจิงโจ้

การกวาดล้างล่าสุดนี้ ยังบังกิดขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 2 รายในเมืองบริสเบน โดยต้องข้อหาว่ากำลังระดมแนวร่วม จัดหาเงินทุนสนับสนุน และจัดส่งนักรบญิฮัดไปต่อสู้ในซีเรีย

ในวันพุธ (17) ออสเตรเลียยังได้สั่งปิดบริษัทซึ่งให้บริการธุรกรรมทางการเงินแห่งหนึ่งในนครซิดนีย์ หลังพบข้อมูลน่าเชื่อถือว่าอาจถูกใช้เป็นช่องทางส่งเงินทุนไปตะวันออกกลางเพื่อช่วยเหลือกลุ่มก่อการร้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น