รอยเตอร์/วอยซ์ออฟอเมริกา - ตำรวจต่อต้านก่อการร้ายของอินโดนีเซียในวันอังคาร (16 ก.ย.) กำลังสอบปากคำชาวต่างชาติมุสลิมอุยกูร์จีน 4 คน หลังถูกจับกุมฐานต้องสงสัยมีความเกี่ยวข้องกับพวกนักรบรัฐอิสลามที่กำลังสู้รบอยู่ในซีเรียและอิรัก ขณะที่จากการตรวจสอบพบว่าทั้งหมดเดินทางเข้าสู่แดนอิเหนาโดยใช้พาสปอร์ตปลอมที่ทำในไทย
แม้เป็นเรื่องธรรมดาที่ตำรวจมักจับกุมผู้ต้องสงสัยนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรงชาวอินโดนีเซีย แต่อีกด้านหนึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่พบเห็นบ่อยครั้งนักที่ตำรวจแดนอิเหนาจะดำเนินการจับกุมชาวต่างชาติ ซึ่งบางทีอาจเป็นการส่งสัญญาณว่าพวกเขากำลังเริ่มมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกลยุทธ์ใหม่ๆ ของพวกนักรบ
นับตั้งแต่โดนจับกุมเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 4 คน ถูกนำตัวไปคุมขังบนเกาะสุลาเวสี หลังต้องสงสัยพยายามติดต่อกับนายอาบู วาร์ดาห์ ซันโตโซ แกนนำกลุ่มนักรบอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของทางการอิเหนา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่บอกว่าชายทั้ง 4 คนเป็นชาวตุรกี แต่พลตำรวจเอกสุธามาน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย เผยในเวลาต่อมาว่าทั้งหมดเดินทางเข้าอินโดนีเซียโดยใช้พาสปอร์ตปลอมที่ผลิตในประเทศไทย
“ทั้ง 4 คนอ้างว่ามาจากตุรกีและเดินทางมายังกัมพูชาโดยเรือ จากนั้นก็สัญจรทางบกเข้าสู่ประเทศไทย และในไทยนี้เอง พวกเขาก็ได้พาสปอร์ตปลอม ด้วยพาสปอร์ตปลอมนี้ พวกเขาบินออกจากไทยมุ่งไปยังกัวลาลัมเปอร์ และจากกัวลาลัมเปอร์ก็เข้าสู่อินโดนีเซีย” พลเอก สุธามานกล่าว
มาร์ซิอาโน นอร์แมน ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองของอินโดนีเซียบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเจ้าหน้าที่พยายามสืบสวนให้ได้ข้อสรุปว่าชายทั้ง 4 คนนี้มีความเกี่ยวข้องกับนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) หรือไม่
“ตอนนี้พวกเขาถูกสงสัยว่ามาจากกลุ่มเดียวกัน พวกเขาน่าจะเป็นสมาชิกของกลุ่มหัวรุนแรง แต่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มหัวรุนแรงที่มาจากตะวันออกกลางหรือไม่นั้น ยังจำเป็นต้องมีการสืบสวนให้ละเอียดถี่ถ้วน”
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีชาวอินโดนีเซียหลายสิบคนที่เข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม ที่ตอนนี้ได้แผ่อิทธิพลไปทั่วภาคเหนือของอิรัก ทำให้กลุ่มหัวรุนแรงในมาเลเซียและอินโดนีเซีย อยากจะเอาแนวคิดการจัดตั้งรัฐอิสลามมายังพื้นที่ของตัวเองบ้าง
ในความพยายามสกัดการเกณฑ์สมาชิกของพวกรัฐอิสลาม เมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลอินโดนีเซีย สั่งห้ามให้การสนับสนุนพวกไอเอสและเผยแพร่ข่าวสารของนักรบกลุ่มนี้
