พังงา - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คุมเข้ม 3 ประเด็นหลัก โดยเฉพาะปัญหาแท็กซี่ป้ายดำ พาสปอร์ตปลอม และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยสูงสุด
วันนี้ (17 เม.ย.) พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติโดยได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ให้ดูแล และต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ให้เป็นอย่างดีเหมือนกับเป็นญาติมิตร จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจค่อยอำนวยความสะดวกในการบอกเส้นทาง ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเป็นปกติ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ภาค 8 โดยปกติก็มีเหตุเกิดขึ้นน้อยอยู่แล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดชุดสายตรวจ อาสาสมัครชาวไทย และอาสาสมัครชาวต่างชาติ ได้แนะนำแหล่งท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อน
สำหรับกรณีเรื่องรถแท็กซี่เถื่อนที่ไม่ถูกต้องก็ได้จัดชุดตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 8 ไปสืบสวนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และพื้นที่อื่นๆ คาดว่าจะมีผลในเร็วๆ นี้ ในการแก้ไขปัญหาการเอารัดเอาเปรียบให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อน ขณะเดียวกัน ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ไปประชาสัมพันธ์ และดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
ส่วนเรื่องการทำพาสปอร์ตปลอม ก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งระดมกวาดล้างแหล่งทำพาสปอร์ตปลอมกวาดล้างครั้งใหญ่ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และแก๊งที่นำไปใช้ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในเรื่องบัตรเครดิตปลอม เรื่องขนคนจากประเทศหนึ่งไปประเทศหนึ่ง ซึ่งขณะนี้การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ผลเป็นอย่างดี และคาดว่าเรื่องนี้จะไม่สงผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้พบว่ามีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมของคนอื่นมาใช้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวในบางพื้นที่ แม้ว่าทางเจ้าของบัตรจริงๆ จะอยู่ในต่างประเทศก็ตาม และนำมากดในประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 8 ได้มีการจับกุมแก๊งปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ชาวมาเลเซียได้ก็หายไป แต่ขณะนี้พบว่ามีแก๊งยุโรปตะวันออก พวกชาวตุรกีเข้ามาใช้อยู่ซึ่งจะมีการระบาดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และเกาะสมุย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ชุดสืบสวนจับกุมมาดำเนินคดีคาดว่าเร็วๆ นี้ก็จะหมดไป
