xs
xsm
sm
md
lg

เตือนภัยรัสเซียแสบ! ตระเวนใช้พาสปอร์ตหลอกเช่า จยย.ทั่วเขาหลักแล้วเชิดหนี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พังงา - ผู้ประกอบการรถเช่าในย่านเขาหลัก ติดป้ายเตือนรัสเซียแสบตระเวนใช้สำเนาพาสปอร์ตปลอมหลอกเช่ารถจักรยานยนต์ในพื้นที่เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ครบกำหนดส่งคืนรถกลับไม่คืน หายทั้งรถทั้งคน เดือนเดียวโดนไป 4 ราย คาดว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากทางผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์เช่าว่า ขณะนี้มีฝรั่งชาวรัสเซีย อายุประมาณ 30-35 ปี ได้นำพาสปอร์ตปลอมตระเวนเช่ารถจักรยานยนต์แล้วเชิดรถหนี ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน โดนไป 4 ร้าน ในพื้นที่บ้านบางหลาโหล หมู่ที่ 7 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ขณะนี้ได้มีทางผู้ประกอบการได้ช่วยกันนำรูปฝรั่งที่เคยมาเช่ารถแล้วไม่ส่งคืนมาติดตามร้านอาหาร ร้านเช่ารถจักรยานยนต์ต่างๆ ในพื้นที่ให้ช่วยกันเฝ้าระวังอย่าปล่อยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นชาวรัสเซีย อายุประมาณ 30-35 ปี มาเช่ารถเด็ดขาด หลังจากนักท่องเที่ยวนำหลักฐานเป็นพาสปอร์ตมายื่นยันต่อทางร้าน ก่อนที่เจ้าของร้านรายนี้ตายใจ จึงได้นำรถจักรยานยนต์ให้นักท่องเที่ยวรายนี้เช่าไป แต่เมื่อวันที่ครบกำหนดส่งรถ พบว่า ฝรั่งที่เช่าไปไม่ยอมเอารถมาคืนบริษัท พร้อมตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่นำมาเช่าเป็นพาสปอร์ตปลอม และในพื้นที่เขาหลักมีร้านเช่ารถถูกหลอกไปแล้วหลายราย ซึ่งขณะวันที่เกิดเหตุกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้ ทางร้านจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า หวังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินคดีต่อผู้ต้องสงสัยรายนี้ แต่กลับพบว่า คดียังไม่คืบหน้าจึงได้ติดป้ายประกาศเตือนตามแหล่งท่องเที่ยว พร้อมทั้งให้สื่อมวลชนช่วยเผยแพร่ภาพเตือนอย่าให้ร้านใดตกเป็นเหยื่อหลงเชื่ออีก

นางพัชรี เทพสมุทร เจ้าของร้านเขาหลัก โอเอซิสทัวร์ ซึ่งเปิดบริการทำทัวร์และรถให้เช่า กล่าวว่า ร้านของตนโดนแก๊งต่างชาติที่แฝงตัวมาในรูปแบบนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียทำทีมาเช่ารถจักรยานยนต์โดยใช้พาสปอร์ตปลอม โดยพฤติกรรมของคนร้ายจะเดินมาที่ร้านแล้วถามว่ารถจักรยานยนต์เช่าวันละเท่าไหร่ ตนจึงบอกว่า วันละ 200 ชายคนดังกล่าวบอกว่าจะเช่า 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม เป็นเงิน 800 บาท แต่ขอเป็นรถใหม่ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีแดง ป้ายแดง กำหนดส่งรถต้องส่งวันที่ 18 ตุลาคม พอครบกำหนดส่งคืนรถแต่ปรากฏว่า ถึงบัดนี้ยังไม่ได้มีการนำรถมาคืนแต่อย่างใด ตนจึงได้ไปสอบถามที่โรงแรมว่ามีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียชื่อนี้ไหม ทางโรงแรมบอกว่าไม่มีคนที่ชื่อนี้พักที่นี่ ตนจึงรู้ว่าได้ถูกหลอกเชิดรถหนีแน่นอน ตนเปิดร้านทัวร์และรถเช่าที่นี่มากว่า 10 ปีแล้วยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย หลังจากนี้ ตนจะไปแจ้งความไว้ก่อนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาให้ได้ นอกจากร้านของตนแล้ว ในพื้นที่เขาหลักในระยะไม่ถึง 2 เดือนมานี้ โดนกันไป 4 ร้าน จากคนร้ายคนเป็นชายชาวต่างชาติคนเดียวกัน ตนคิดว่าพวกนี้น่าจะเป็นขบวนการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ เป็นที่น่าสังเกตว่า เรามีภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน แต่ทำไมคดีกลับไม่คืบหน้า เวลาก็ผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว ทั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่แต่ละปีมีเป็นจำนวนมากแต่ความปลอดภัยกับไม่มีเลย จึงอยากจะฝากเตือนผู้ประกอบการรถเช่าให้ระวังตัวไว้ เพราะตอนนี้คงไม่สามารถพึ่งพาใครได้นอกจากตัวเอง

ส่วน นายวินัย หมายแร่ อายุ 44 ปี เจ้าของร้านตุ๊ เขาหลัก เทรเวล แอนด์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นออฟฟิศบริษัททัวร์ และบริการรถจักรยานยนต์ให้เช่า มีประมาณ 40 กว่าคัน กล่าวว่า ร้านของตนเองถูกฝรั่งชายชาวรัสเซียมาขอเช่ารถจักรยานยนต์ โดยทำทีมาเช่ารถจักรยานยนต์ เวลา 13.40 น.จะเลือกเอาแต่ยี่ห้อใหม่ๆ และได้มีการตกลงทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรการเช่ารถเรียบร้อยแล้วแต่ตนเอะใจขึ้นมา จึงถามว่า คุณพักอยู่ที่ไหน เบอร์ห้องเบอร์อะไร ชายคนดังกล่าวกับไม่ตอบพร้อมกับทำทีว่าเดินดูรถอีกรอบ แล้วก็เดินออกจากร้านไป แต่ตนสังเกตเห็นว่ามีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ Honda City สีเทา ขับมารับชาวคนดังกล่าว ตนสงสัยจึงขี่รถจักรยานยนต์ ตามไปดูปรากฏว่าชายคนดังกล่าวได้ไปเช่ารถจักรยานยนต์อีกร้านหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โชคดีที่ตนไม่หลงกลให้เช่ารถไป

ทางด้าน น.ส.ศรีสุดา ธรรมกิจ อายุ 29 ปี เจ้าของร้าน More & Spaได้กล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 17 เดือนตุลาคมปีนี้ ตนเองเพิ่งโดนชาวต่างชาติคนดังกล่าวมาขอเช่ารถจักรยานยนต์เหมือนกัน เป็นชายหนุ่มอายุน่าจะไม่เกิน 30-35 ปี ได้ทำทีมาเช่ารถจักรยานยนต์ของตนโดยทำทีเดินผ่านหน้าร้านไปแล้วก็วกกลับมาถามราคาว่าให้เช่ารถจักรยานยนต์วันละเท่าไหร่ ตนจึงบอกว่า 250 บาท ชายคนดังกล่าวบอกว่าแพงไปขอลดราคาได้ไหมตนจึงบอกว่าลดราคาไม่ได้ถ้าอย่างนั้นลองไปดูร้านข้างๆ ดีไหมเผื่อจะได้ราคาที่ถูกกว่าร้านของตน จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินออกไปน่าจะประมาณครึ่งชั่วโมง ชายคนดังกล่าวก็กลับมาอีกครั้งคราวนี้มาตกลงเช่ารถจักรยานยนต์ ทำหนังสือสัญญาพร้อมกับจ่ายเงินเรียบร้อย ตกลงเช่าวันเดียว ในราคา 250 บาท เป็นรถยามาฮ่า สกู๊ปปี้ไอ สีดำ มูลค่าของรถจักรยานยนต์เกือบ 5 หมื่นบาท ตนจึงถามหาพาสปอร์ตของชายคนดังกล่าว แต่ชายคนดังกล่าวบอกว่า ไม่ได้พกพาสปอร์ตตัวจริงมา แต่ตนมีพาสปอร์ตที่ตอนก๊อบปี้ไว้แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ เคยมีลูกค้าที่มาเช่ารถในลักษณะนี้ไม่พกพาสปอร์ตตัวจริงมาตนก็เลยคิดว่าคงไม่มีอะไรก็เลยปล่อยให้เช่าไป ตนจึงได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.เขาหลัก แต่ก็อยากจะฝากเตือนผู้ประกอบการรถเช่าให้ระวังตัวไว้ ตอนนี้ตนก็ได้นำภาพของผู้เสียหายแจกจ่ายไว้ให้แก่ผู้ประกอบการรถเช่าที่เขาหลักแล้ว เพราะตอนนี้คงไม่สามารถพึ่งพาใครได้นอกจากตัวเอง เรื่องเกิดมาเป็นเดือน ภาพจากกล้องวงจรปิดก็มี เห็นหน้าคนร้ายชัดเจน ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น