เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีใต้เสนอแผนปรับราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นอีก 80% วันนี้ (11) เพื่อลดจำนวนคนสูบบุหรี่ในประเทศซึ่งได้ชื่อว่ามีสัดส่วนพลเมืองชายเป็นสิงห์อมควันมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
การขึ้นราคาบุหรี่ครั้งมโหฬารยังต้องรอผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาเสียก่อน แต่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข มูน ฮยุง-โป ชี้ว่า รัฐจำเป็นต้องออกมาตรการเช่นนี้เพื่อต่อต้านพฤติกรรมสูบบุหรี่ ซึ่งนับวันจะยิ่งกลายเป็น “ภัยร้ายแรงที่สุด” ต่อสุขภาพคนในชาติ
ข้อเสนอของรัฐบาลกำหนดให้ขึ้นราคาบุหรี่ 1 ซองจาก 2,500 วอน (ราว 78 บาท) เป็น 4,500 วอน (ราว 140 บาท) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ปีหน้า
มูน ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขคาดว่าการปรับราคาบุหรี่ครั้งนี้จะช่วยให้จำนวนนักสูบลดลงถึงร้อยละ 34 และยังช่วยให้รัฐมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้นถึงปีละ 2.8 ล้านล้านวอน
ประชากรชายในเกาหลีใต้สูบบุหรี่ถึงร้อยละ 44 ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ กรุงโซลได้งัดสารพัดวิธีขึ้นมาใช้เพื่อโน้มน้าวให้คนเลิกเป็นสิงห์อมควัน รวมถึงการออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ
นอกจากแผนปรับราคาบุหรี่ที่เสนอในวันนี้ (11) แล้ว มูน ระบุว่า ผู้ผลิตจะต้องพิมพ์ภาพเตือนอันตรายบนซองบุหรี่ด้วย และจะไม่อนุญาตให้ร้านค้าปลีกติดป้ายโฆษณาบุหรี่อีกต่อไป
“เราหวังว่ามาตรการต่อต้านอย่างครอบคลุมนี้จะช่วยให้พลเมืองเกาหลีใต้สูบบุหรี่กันน้อยลง และช่วยประหยัดงบประมาณด้านการรักษาพยาบาลด้วย”
สมาคมผู้สูบบุหรี่แห่งเกาหลีใต้ออกมาคัดค้านนโยบายนี้ โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลกำลัง “โยนบาป” ให้คนสูบบุหรี่จ่ายภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อมาชดเชยรายจ่ายด้านสวัสดิการสังคมที่พุ่งสูง
รัฐบาลเกาหลีใต้สัญญาว่าจะจัดสรรงบประมาณด้านสวัสดิการสังคมสูงถึง 316 ล้านล้านวอน (9.8 ล้านล้านบาท) ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี 2018
กลุ่มรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่สนับสนุนให้รัฐบาลเกาหลีใต้ขึ้นราคาจำหน่ายบุหรี่มานานแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ว่าแผนนี้จะได้รับ “ไฟเขียว” จากสภาหรือไม่
สมาชิกพรรครัฐบาลบางคนแสดงความเป็นห่วงว่า การปรับขึ้นราคาบุหรี่เกือบเท่าตัวเช่นนี้อาจส่งผลต่อคะแนนนิยมของพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป ขณะที่กลุ่มฝ่ายค้านหลักของเกาหลีใต้นั้นออกมาค้านหัวชนฝาทีเดียว
“นี่เป็นแผนหลอกลวงของรัฐบาลเพื่อที่จะดึงเงินภาษีจากกระเป๋าประชาชนที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว” ถ้อยแถลงจากกลุ่มพันธมิตรการเมืองใหม่เพื่อประชาธิปไตย (New Politics Alliance for Democracy) ระบุ
ในกรณีของเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น รัฐบาลโตเกียวประสบความสำเร็จในการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ซึ่งเคยพุ่งสูงสุดถึงร้อยละ 49.4 ของประชากรทั้งประเทศในปี 1966 ซึ่งขณะนั้นชายญี่ปุ่นวัยผู้ใหญ่เป็นสิงห์นักสูบกันถึงร้อยละ 83.7
ผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่า จำนวนคนสูบบุหรี่ในญี่ปุ่นลดลงเหลือไม่ถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศเป็นครั้งแรก โดยชายและหญิงวัยผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่มีจำนวนเพียงร้อยละ 30.3 และ 9.8 ตามลำดับ
โพลชิ้นนี้จัดทำขึ้นราว 1 เดือน หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นปรับขึ้นภาษีการขายเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ซึ่งส่งผลให้ราคาบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นตามๆ กัน