เอเอฟพี - รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียในวันพุธ(10ก.ย.) เรียกร้องเหล่าผู้เชี่ยวชาญดำเนินการค้นหาบริเวณจุดตกของเที่ยวบินMH17ทางภาคตะวันออกของยูเครนเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อเก็บกู้ซากศพที่ยังตกค้างอยู่ ก่อนฤดูหนาวจะมาเยือน
"มันมีความสำคัญยิ่งสำหรับเรา ในการเข้าตรวจค้นทุกซอกทุกมุมของพื้นที่ เพื่อควานหาศพผู้โดยสารที่ยังหาไม่พบ ก่อนที่ฤดูหนาวในยูเครนจะเริ่มรุกไล่เข้ามา" ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมแดนเสือเหลืองบอก หลังจากพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียในมอสโก
เครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตกทางภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม คร่าผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 298 ชีวิต ขณะที่ทีมสืบสวนที่นำโดยเนเธอร์แลนด์ ต้องละทิ้งปฏิบัติการค้นหา ณ จุดตกของเครื่องในช่วงต้นเดือนสิงหาคม สืบเนื่องจากสถานการณ์สู้รบระหว่างกองกำลังรัฐบาลและฝ่ายกบฏนิยมรัสเซีย แต่ด้วยข้อตกลงหยุดยิงเร็วๆนี้ เพิ่มความหวังว่าเหล่าผู้เชี่ยวชาญอาจได้กลับไปทำงานอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามทาง ฮิชามมุดดินไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเฉพาะเจาะจงว่าเมื่อไหร่ที่ปฏิบัติการค้นหาจะกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง หรือคลี่คลายข้อสงสัยที่ว่าภารกิจครั้งใหม่นี้ได้รับคำรับประกันด้านความปลอดภัยหรือไม่
ฮิชามมุดดิน มาถึงกรุงมอสโกหนึ่งวัน หลังจากที่ทีมสืบสวนของเนเธอร์แลนด์เผยแพร่รายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับโศกนาฏกรรม โดยเขาได้พูดคุยกับนายเซียร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซียและกริกอรี คาราซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับการตรวจสอบเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ที่ดำเนินไปด้วยดี "เราต่างอยู่ในจุดยืนเดียวกัน เราต้องการความโปร่งใสและความยุติธรรม"
ในขณะที่ยังมีการสาดโคลนกันไปมาระหว่างยูเครนกับกบฎนิยมรัสเซีย ว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุเครื่องบินโหม่งโลก จนถึงตอนนี้มีศพที่ถูกเก็บกู้จากจุดตกและส่งไประบุเอกลักษณ์บุคคลในเนเธอร์แลนด์ แค่ 230 ศพเท่านั้น
เคียฟและตะวันตกเชื่อว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำนี้ ซึ่งร่วงลงจากน่านฟ้าในเส้นทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัมสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ถูกยิงโดยขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศที่กลุ่มกบฏได้รับมาจากรัสเซีย แต่ทางมอสโกปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
เมื่อวันอังคาร (9) ผู้เชี่ยวชาญชาวดัตช์เปิดเผยผลการตรวจสอบเบื้องต้นในการสืบสวนเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ โดยระบุว่า เครื่องบินเที่ยว MH17 “พังทลายกลางอากาศด้วยความเสียหายเชิงโครงสร้างที่เกิดจากวัตถุพลังสูงจำนวนหลายชิ้นที่ทะลวงจากภายนอก”
ถึงแม้ว่ารายงานฉบับนี้จากคณะกรรมการความปลอดภัยของเนเธอแลนด์จะไม่ได้ออกคำกล่าวโทษโดยตรงต่อหายนะทางอากาศครั้งนี้ แต่มันอาจจะทำให้ตะวันตกเพิ่มแรงกดดันมอสโกมากขึ้น ต่อบทบาทของพวกเขาในความขัดแย้งนองเลือดของยูเครน