เอเอฟพี - รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกกับรัฐมนตรีกลาโหมของมาเลเซียวันพุธ (10) ว่า ยูเครนมีส่วนรับผิดชอบเต็มๆ กับการตกของเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ เที่ยวบิน MH17 ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ 298 ราย
“เหตุตกครั้งนี้เกิดขึ้นในน่านฟ้าของยูเครน ซึ่งต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด” เซียร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกกับ ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมแดนเสือเหลืองที่มาเยือนกรุงมอสโกเพื่อหารือเรื่องการสืบสวนเหตุ MH17 ที่กำลังดำเนินการอยู่
“ผมมั่นใจว่า ถ้ายูเครนแก้ปัญหาภายในประเทศโดยไม่ใช้กำลังทหาร ไม่มีการสู้รบนองเลือดในพื้นที่ตลอดเดือนนั้น ไม่มีการนำปืนใหญ่มาใช้ โศกนาฏกรรมนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น” ชอยกู กล่าวแสดงความคิดเห็นผ่านโทรทัศน์
ฮิชามมุดดิน มาถึงกรุงมอสโกหนึ่งวัน หลังจากที่ทีมสืบสวนของเนเธอร์แลนด์เผยแพร่รายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม
“ผมชื่นชมความอดทนอดกลั้นของพวกคุณอย่างยิ่ง” เขาบอกกับเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย โดยอ้างถึงการสืบสวนที่กำลังดำเนินอยู่
เคียฟและฝ่ายตะวันตกเชื่อว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำนี้ ซึ่งร่วงลงจากน่านฟ้าในเส้นทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัมสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ถูกยิงโดยขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศที่กลุ่มกบฏได้รับมาจากรัสเซีย แต่ทางมอสโกปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และชี้ว่าเป็นความผิดของเคียฟ
สถานทูตของมาเลเซียในกรุงมอสโกและกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า ฮิชามมุดดิน ยังได้พบปะกับ กริกอรี คาราซิน รัฐมนตรีช่วนว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียด้วย โดยโฆษกหญิงของสถานทูตมาเลเซีย ระบุว่า “การเยือนครั้งนี้จะใช้เวลาไม่ถึงวัน”
ฮิชามมุดดิน เดินทางไปที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเมื่อวันอังคาร (9) และจะไปเยือนกรุงอัมสเตอร์ดัมเป็นที่ต่อไป โฆษกหญิงกล่าวเสริม
เมื่อวันอังคาร (9) ผู้เชี่ยวชาญชาวดัตช์เปิดเผยผลการตรวจสอบเบื้องต้นในการสืบสวนเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ โดยระบุว่า เครื่องบินเที่ยว MH17 “พังทลายกลางอากาศด้วยความเสียหายเชิงโครงสร้างที่เกิดจากวัตถุพลังสูงจำนวนหลายชิ้นที่ทะลวงจากภายนอก”
ถึงแม้ว่ารายงานฉบับนี้จากคณะกรรมการความปลอดภัยของเนเธอแลนด์จะไม่ได้ออกคำกล่าวโทษโดยตรงต่อหายนะทางอากาศครั้งนี้ แต่มันอาจจะทำให้ตะวันตกเพิ่มแรงกดดันมอสโกมากขึ้น ต่อบทบาทของพวกเขาในความขัดแย้งนองเลือดของยูเครน