รอยเตอร์ – กลุ่มติดอาวุธตอลิบานกดชนวนระเบิดรถบรรทุก 2 คันถล่มหน้าสำนักงานข่าวกรองอัฟกานิสถาน และสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดกอซนี (Ghazni) ทางตอนกลางของประเทศวันนี้(4) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บอีกราว 150 คน
เหตุวินาศกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสัปดาห์เกิดขึ้นหลังจากที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติอัฟกานิสถาน (National Directorate of Security – NSD) ซึ่งเป็นหน่วยงานข่าวกรองที่ทำภารกิจต่อต้านกลุ่มก่อความไม่สงบ เพิ่งจะถูกโจมตีไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
มูซา ข่าน อักบาร์ซาดา ผู้ว่าการจังหวัดกอซนี เปิดเผยว่า กลุ่มติดอาวุธ 19 คนพุ่งเป้าโจมตีกองกำลังเคลื่อนที่เร็วภายในสำนักงานตำรวจแห่งหนึ่ง แรงระเบิดทำให้กระจกหน้าต่างบ้านเรือนแตกกระจาย และกลุ่มคนร้ายยังได้ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง
เหตุโจมตีในจังหวัดกอซนีซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีพื้นที่ติดกับกรุงคาบูล ถือเป็นการก่อเหตุรุนแรงครั้งล่าสุดของกลุ่มตอลิบานหลังจากที่พวกเขาได้เปิดฉากปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาลอย่างดุเดือดในช่วงฤดูร้อนปีนี้ โดยมีหน่วยงานของรัฐหลายแห่งตกเป็นเป้าหมาย รวมถึงในจังหวัดโลการ์และวาร์ดักซึ่งถือเป็นประตูสู่เมืองหลวง
ที่ผ่านๆ มา เจ้าหน้าที่อัฟกันเชื่อว่าการใช้รถบรรทุกขนระเบิดมาถล่มสถานที่ราชการใกล้ๆ เมืองหลวงเป็นฝีมือของเครือข่ายฮักกอนี (Haqqani) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรย่อยของตอลิบานที่มีพิษสงที่สุด
อักบาร์ซาดา ชี้ว่า กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้มารวมตัวที่หน้าสำนักงานเป้าหมายทั้ง 2 แห่งตั้งแต่ช่วงเช้า “แรงระเบิดมีอานุภาพมหาศาลจนทำให้หลังคาบ้านเรือนพังถล่มและกระจกแตก พลเรือนจึงบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมาก”
เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่การเมืองอัฟกานิสถานส่อเค้าวุ่นวายหนัก เนื่องจากผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีทั้ง 2 คนคือ อับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์ และ อัชรอฟ ฆอนี ยังไม่อาจยุติข้อถกเถียงเรื่องการทุจริตเลือกตั้งเพื่อนำประเทศชาติไปสู่การผ่องถ่ายอำนาจตามครรลองประชาธิปไตยครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้
กองกำลังนานาชาติภายใต้การนำขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานภายในสิ้นปี 2014 นี้ ทว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปอาจทำให้การลงนามข้อตกลงด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ ซึ่งจะกำหนดจำนวนทหารอเมริกันที่จะประจำการอยู่ในดินแดนอัฟกันต่อไปหลังจากนี้ ต้องล่าช้าออกไปอีก