รอยเตอร์ – รัฐบาลเกาหลีเหนือเผยมาตรการปิดหูปิดตาประชาชนแบบใหม่ โดยจำกัดอายุ “ซิมโทรศัพท์นักท่องเที่ยว” ให้ใช้งานได้เท่าระยะเวลาที่พำนักอยู่ในเกาหลีเหนือ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวโสมแดงแอบนำซิมโทรศัพท์ที่เพื่อนต่างแดนทิ้งไว้มาใช้ท่องอินเทอร์เน็ต แหล่งข่าวด้านการท่องเที่ยวเผย
ในขณะที่ชาวโสมแดงทั่วไปถูกจำกัดการเข้าถึงข่าวสารจากโลกภายนอก ชาวต่างชาติที่เข้าไปท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือกลับได้รับสิทธิพิเศษที่จะเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์อย่างทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กได้อย่างเสรี ผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์ท้องถิ่น คอร์โยลิงก์ (Koryolink)
ภายใต้นโยบายใหม่ที่เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางการเปียงยางจะระงับบริการซิมการ์ดทันทีที่นักท่องเที่ยวเดินทางออกจากประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่า ซิมการ์ดเหล่านั้นจะไม่ตกไปถึงมือพลเรือน
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถขอเปิดใช้บริการซิมการ์ดอันเดิมได้ เมื่อเดินทางกลับเข้าไปในเกาหลีเหนืออีกครั้ง
“นโยบายเช่นนี้หมายความว่า เมื่อนักท่องเที่ยวออกจากประเทศไป พวกเขาจะไม่สามารถทิ้งโทรศัพท์ไว้ให้เพื่อนชาวโสมแดงท่องอินเทอร์เน็ตได้” แหล่งข่าวผู้หนึ่งเผย โดยปฏิเสธที่จะระบุชื่อเสียงเรียงนามของตนเอง เนื่องจากการถกประเด็นละเอียดอ่อนเช่นนี้ขณะที่ทำงานอยู่ในเกาหลีเหนือเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงอย่างมาก
ปัจจุบันมีชาวโสมแดงกว่า 2.5 ล้านคนลงทะเบียนใช้เครือข่ายคอร์โยลิงก์เพื่อโทรศัพท์ติดต่อญาติมิตร และเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศที่รัฐบาลควบคุมเนื้อหาอย่างเข้มงวด ส่วนชาวต่างชาติก็สามารถใช้บริการได้ แต่จะมีเครือข่ายแยกต่างหากที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตทั่วไป
ทั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า กฎระเบียบใหม่จะถูกบังคับใช้กับนักการทูต หรือชาวต่างชาติที่มีสัญญาพำนักอยู่ในเกาหลีเหนือระยะยาวหรือไม่
เครือข่ายคอร์โยลิงก์เป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลเกาหลีเหนือกับบริษัทโทรคมนาคม โอราสคอม เทเลคอม ของอียิปต์
แม้รัฐบาลคอมมิวนิสต์โสมแดงจะพยายามกลั่นกรองข้อมูลข่าวสารอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมทิศทางความคิดของประชาชนให้ได้มากที่สุด ทว่าชาวโสมแดงจำนวนมากก็สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับโดยใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กจำพวกยูเอสบี หรือไมโครเอสดีการ์ด ที่สามารถแบ่งปันข้อมูลและสื่อบันเทิงต่างๆ ทั้งในรูปของวีดีโอ เพลง และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
ซิมการ์ดซึ่งกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังเป็นของที่ซุกซ่อนได้ง่าย ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า หลังจากนี้รัฐบาลเกาหลีเหนือน่าจะมีมาตรการกวาดล้างครั้งใหญ่ตามมา
โซกีล พัค เจ้าหน้าที่จากองค์กร LiNK ซึ่งเป็นเครือข่ายเอ็นจีโอที่ทำงานร่วมกับชาวโสมแดงที่แปรพักตร์ ระบุว่า เกาหลีเหนือเริ่มควบคุมข่าวสารเข้มงวดยิ่งขึ้นภายใต้การปกครองของ คิม จองอึน ซึ่งก้าวสู่ฐานะผู้นำสูงสุดของรัฐโสมแดงเมื่อเดือนธันวาคมปี 2011 หลังจากที่ คิม จองอิล บิดาของเขา สิ้นชีวิตลงอย่างกะทันหัน
พัค ยังเอ่ยถึงความพยายามของเกาหลีเหนือที่จะปิดกั้นสื่อต่างชาติ และยึดโทรศัพท์มือถือที่มีคนลักลอบนำเข้าประเทศ ซึ่งสามารถใช้โทรออกบริเวณชายแดนที่ยังรับสัญญาณโทรศัพท์ของจีนได้อยู่
“เป็นเรื่องเข้าใจได้ที่เกาหลีเหนือจะต้องการอุดช่องโหว่ไม่ให้ชาวต่างชาติทิ้งซิมการ์ดไว้ให้เพื่อนชาวเกาหลีเหนือใช้เวลาที่พวกเขาจากไปแล้ว เพราะหากปล่อยให้พลเมืองสามารถโทรศัพท์ไปต่างประเทศ หรือเข้าถึงระบบ 3G ได้ การปิดกั้นข่าวสารจากโลกภายนอกก็จะยากยิ่งขึ้น”