เอพี - “เวอร์จินออสเตรเลีย” สายการบินใหญ่เป็นอันดับสองของแดนจิงโจ้ ได้แถลงผลประกอบการขาดทุนสุทธิในปีงบประมาณล่าสุด สูงถึง 356 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.06 หมื่นล้านบาท) ซึ่งมากกว่าตัวเลขการขาดทุนในปีที่แล้วเป็น 3 เท่า
ผลประกอบการขาดทุนสุทธิตลอด 1 ปีที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2014 เปิดเผยวันนี้ (29 ส.ค.) ภายหลังเมื่อปีที่แล้ว เวอร์จินออสเตรเลียขาดทุนไป 98 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 2.9 พันล้านบาท) โดยสายการบินแดนจิงโจ้ระบุว่า การขาดทุนมหาศาลในปีนี้เป็นผลมาจาก กำลังการผลิตเหลือใช้ (Excess market capacity) ที่เกิดขึ้นระหว่าง เวอร์จินออสเตรเลีย ทุ่มกำลังแข่งขันกับสายการบินคู่แข่งที่ใหญ่กว่าอย่าง “แควนตัสแอร์เวย์ส” ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอ่อนตัวลง และการเสียภาษีคาร์บอนสูงลิ่วถึง 52 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.55 พันล้านบาท)
จอห์น บอร์เกตติ ประธานบริหารของ เวอร์จินออสเตรเลีย ระบุในคำแถลงว่า “ปีงบประมาณ 2014 ถือเป็นปีที่บริหารกิจการได้ยากที่สุดปีหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การบินของออสเตรเลีย”
ทางด้าน สายการบินแควนตัสวานนี้ (28) ได้แถลงผลประกอบการขาดทุนสุทธิตลอด 1 ปีเป็นเงิน 2.8 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 8.5 หมื่นล้านบาท) ซึ่งถือเป็นยอดบัญชีตัวแดงสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดมูลค่าทรัพย์สินในบัญชี (write-down) สูงถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 7.8 หมื่นล้านบาท)
วันนี้ (29) เวอร์จินออสเตรเลียแถลงว่า ได้ขายหุ้น 35 เปอร์เซ็นต์ในโครงการสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าที่บินบ่อยให้แก่บริษัทลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ “แอฟฟินีตี อีควิตี พาร์ทเนอร์ส” ในราคา 960 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 2.87 หมื่นล้านบาท)
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศยกเลิกอัตราภาษีคาร์บอน ที่พรรคแรงงานได้เรียกเก็บจากบรรดาผู้ก่อมลภาวะรายใหญ่ๆ ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโน้มน้าวให้ภาคธุรกิจเหล่านี้แสวงหาวิธีลดมลพิษ
