เอเอฟพี - กบฏมุสลิมกลุ่มใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ได้ออกโรงประณามกลุ่มนักรบญิฮาดหัวรุนแรงในอิรักและซีเรีย พร้อมทั้งประกาศกร้าวจะหยุดยั้ง “ไวรัส” นี้แผ่ขยายเข้ามายังแดนตากาล็อก
เมื่อเดือนมีนาคม กลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (เอ็มไอแอลเอฟ) ได้จรดปากกาเซ็นข้อตกลงสันติภาพร่วมกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ เพื่อจัดตั้งเขตปกครองตนเองของชาวมุสลิมบนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศ ภายหลังที่กลุ่มติดอาวูธกลุ่มนี้ลุกฮือขึ้นก่อกบฏมานานหลายทศวรรษ จนส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตไปหลายหมื่นคน
เอ็มไอแอลเอฟ พูดถึงบทบาทการเป็นผู้นำที่ยึดมั่นในทางสายกลางของตนว่าเป็นปราการสำคัญในการหยุดยั้งอุดมการณ์อันโหดร้ายป่าเถื่อนของกลุ่มติดอาวุธ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ไม่ให้แผ่ขยายลุกลามเข้ามายังภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของประชากรมุสลิม
ในสัปดาห์นี้ กลุ่มเอ็มไอแอลเอฟได้ระบุผ่านบทบรรณาธิการของเว็บไซต์ www.luwaran.com ว่า “กลุ่มเอ็มไอแอลเอฟขอประณามพฤติกรรมอันไร้อารยธรรม และป่าเถื่อนของกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ อย่างกลุ่มไอเอส หรือแม้กระทั่งการกระทำของสมาชิกกลุ่มเอ็มไอแอลเอฟเองก็ตาม”
“ถ้าจะพุดกันตรงๆ แล้ว อำนาจ อิทธิพล และแนวทางสายกลางของกลุ่มเอ็มไอแอลเอฟคือสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้พวกแนวคิดหัวรุนแรงสุดโต่งจริงๆ ก่อกำเนิดขึ้นมา”
นอกจากนี้ กลุ่มเอ็มไอแอลเอฟยังกล่าวด้วยว่า แผนจัดตั้งเขตปกครองตนเองชาวมุสลิม ซึ่งเป็นหลักใหญ่ใจความในการทำข้อตกลงสันติภาพฉบับนี้จะเป็นปราการสำคัญในการป้องกันดินแดนจากอุดมการณ์ของกลุ่มรัฐอิสลาม
กลุ่มเอ็มไอแอลเอฟได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีเบนินโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์อนุมัติร่างกฎหมายเพื่อการจัดตั้งเขตปกครองตนเอง ที่เขาได้รับจากคณะกรรมาธิการร่วมอันประกอบด้วยคณะผู้แทนในการเจรจาจากฝ่ายกบฏมุสลิมและรัฐบาล ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
ข้อตกลงสันติภาพฉบับดังกล่าวเรียกร้องให้อากีโน ผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเข้าสภาคองเกรสตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพื่อที่พวกเขาจะสามารถจัดตั้งเขตปกครองตนเองได้ภายในกลางปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ อากีโน จะก้าวลงจากตำแหน่งประธานาธิบดี
อย่างไรก็ดี อากีโนกลับยังพิจารณาร่างกฎหมายไม่เสร็จสิ้น ซึ่งผู้ช่วยประธานาธิบดีชี้แจงว่า อากีโน ต้องการกลั่นกรองให้มั่นใจว่ากฎหมายจะผ่านด่านตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างแน่นอน
ทางด้าน กลุ่มติดอาวุธมุสลิมอีกสองกลุ่มในแดนตากาล็อก ได้แก่ อาบูไซยาฟ และกลุ่มนักรบเพื่ออิสรภาพอิสลามบังซาโมโร (บีไอเอฟเอฟ) ได้ประกาศตัวเป็นพันธมิตรกลุ่มไอเอส ผ่านวิดีโอคลิปที่เผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่นานมานี้
นักการเมืองบางคนวิตกกังวลว่า กลุ่มติดอาวุธทั้งสองจะเกณฑ์สมาชิกไปร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย แม้ว่ากองทัพฟิลิปปินส์กล่าวว่า ยังไม่พบหลักฐานที่ชี้ว่าสถานการณ์ได้บานปลายไปถึงขั้นนั้น