เอเอฟพี – ประธานาธิบดี เบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ ถือโอกาสในการเยือนญี่ปุ่นเปิดเวทีพูดคุยกับหัวหน้ากบฏมุสลิมกลุ่มใหญ่ของประเทศ หลังการบังคับใช้ข้อตกลงสันติภาพที่ทั้ง 2 ฝ่ายลงนามเมื่อเดือนมีนาคมยังคงล่าช้า ผู้ช่วยทั้ง 2 ฝ่ายแถลงวันนี้(26)
เอ็ดวิน ลาเซียร์ดา โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แถลงว่า การเจรจาดังกล่าวถูกจัดขึ้นนอกรอบระหว่างการประชุมสันติภาพในเมืองฮิโรชิมา ซึ่งประธานาธิบดี อากีโน และ มูราด เอบราฮิม ประธานแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (Moro Islamic Liberation Front – MILF) ต่างได้รับเชิญไปร่วมงาน
โฆษกเอ็มไอแอลเอฟ ระบุว่า พวกตนเป็นฝ่ายเรียกร้องขอเจรจากับประธานาธิบดี อากีโน หลังร่างกฎหมายพื้นฐานซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการบรรลุข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์ไม่สามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาคองเกรสเพื่อผ่านความเห็นชอบภายในเดือนนี้ได้ ซึ่งทำให้การปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพเกิดความล่าช้า
ลาเซียร์ดา ระบุว่า ประธานาธิบดี อากีโน ได้พุดคุยกับ เอบราฮิม ประมาณ 15 นาที เกี่ยวกับร่างกฎหมายจัดตั้งเขตปกครองตนเองสำหรับชาวมุสลิมทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์
“ทั้งสองฝ่ายมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับกฎหมายขั้นพื้นฐานของเขตปกครองตนเองบังสาโมโร” ลาเซียร์ดา กล่าว
กบฏมุสลิมบนหมู่เกาะทางใต้ของฟิลิปปินส์ได้ต่อสู้เรียกร้องเอกราช หรือสิทธิในการปกครองตนเองจากรัฐบาลกลางมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 ซึ่งเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นได้คร่าชีวิตพลเมืองตากาล็อกไปนับแสนคน
เอ็มไอแอลเอฟ ซึ่งมีนักรบประมาณ 10,000 คน ถือเป็นกบฏมุสลิมกลุ่มใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ และการที่พวกเขายอมทำข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาลมะนิลาก็ได้จุดประกายความหวังสันติภาพที่ยั่งยืนขึ้นในภาคใต้ แม้กบฏกลุ่มย่อยๆ จะยังปฏิเสธการวางอาวุธก็ตาม
ข้อตกลงสันติภาพกำหนดให้รัฐบาลฟิลิปปินส์และเอ็มไอแอลเอฟเป็นหุ้นส่วนในแผนจัดตั้งเขตปกครองตนเองบังสาโมโรขึ้นภายในกลางปี 2016 ซึ่งจะเป็นช่วงที่ อากีโน หมดวาระการเป็นผู้นำประเทศตามบัญญัติรัฐธรรมนูญ
คณะกรรมาธิการซึ่งประกอบด้วยผู้แทนรัฐบาลและฝ่ายกบฏทำหน้าที่ร่าง “กฎหมายพื้นฐาน”สำหรับเขตปกครองตนเองที่จะเกิดขึ้น ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวได้ถูกส่งให้ อากีโน พิจารณาไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน ตามกรอบเวลาที่จะต้องทำให้กฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาภายในเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ดี อากีโน กลับยังพิจารณาร่างกฎหมายไม่เสร็จสิ้น ซึ่งผู้ช่วยประธานาธิบดีชี้แจงว่า อากีโน ต้องการกลั่นกรองให้มั่นใจว่ากฎหมายจะผ่านด่านตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างแน่นอน
ฆอซาลี จาฟาร์ รองประธานเอ็มไอแอลเอฟ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีวันนี้(26)ว่า มูราด ได้ขอพบกับ อากีโน เพื่อ “แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับปัญหาความล่าช้า” ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ได้รับคำตอบที่น่าพอใจพอสมควรจากประธานาธิบดี
“เรายอมรับคำอธิบายของประธานาธิบดีอากีโน แต่ถ้าขั้นตอนต่างๆ ยังล่าช้าไปกว่านี้ อาจจะกระทบต่อกำหนดการลงนามข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์” จาฟาร์ ระบุ พร้อมเตือนให้ อากีโน ผลักดันพันธมิตรในสภาคองเกรสให้ผ่านร่างกฎหมายภายในปีนี้