เอเจนซีส์ - สายการบินแควนตัส แถลงผลประกอบการขาดทุนสุทธิตลอดช่วง 1 ปีจนถึงเดือนมิถุนายนสูงถึง 2,840 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นยอดบัญชีตัวแดงสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทว่าประธานเจ้าหน้าที่บริหารอย่าง อลัน จอยซ์ ยังแสดงความมั่นใจว่าอนาคตของสายการบินแห่งชาติแดนจิงโจ้จะ “สดใส” ในปีหน้า
แควนตัสอ้างว่า การขาดทุนมโหฬารครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดมูลค่าทางบัญชี (write-down) ของฝูงบินแควนตัสในเส้นทางระหว่างประเทศ ตลอดจนปัจจัยลบอื่นๆ เช่น อุปสงค์การเดินทางในประเทศที่ลดลง อัตราการบริโภคที่น้อยลง และค่าเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น
ค่าใช้จ่ายไม่ประจำ (one-off costs) ซึ่งจ่ายให้แก่พนักงานที่ถูกปลดออกก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ แควนตัส ขาดทุนอย่างหนัก ทว่า ผู้บริหารสายการบินยืนยันว่าช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดของแควนตัสได้ “ผ่านไปแล้ว” และฐานะทางการเงินของสายการบินก็มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ
“แน่นอนว่าตัวเลขที่เราแถลงวันนี้อาจไม่สู้ดีนัก... แต่ก็เป็นเรื่องของปีที่ผ่านไปแล้ว” จอยซ์ แถลง พร้อมระบุว่า แควนตัสจะกลับมาทำกำไรสุทธิได้ในปี 2015 และไม่มีแผนที่จะยกเลิกโครงการสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าที่บินบ่อย (frequent flyer) อย่างแน่นอน
แควนตัสอ้างว่า ผลประกอบการขาดทุนก่อนหักภาษี (underlying loss) ในช่วง 12 เดือนจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งยังไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่ประจำและการลดมูลค่าทางบัญชีของฝูงบินระหว่างประเทศ อยู่ที่ราวๆ 646 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งถือว่าดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
การแถลงภาพรวมในเชิงบวกของ จอยซ์ ช่วยให้ราคาหุ้นแควนตัสในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นถึง 8% ในการซื้อขายเช้าวันนี้ (28) แต่ ปีเตอร์ เอโช หุ้นส่วนของบริษัทบริหารสินทรัพย์ 100 Doors กลับมองว่า สิ่งที่ผู้บริหารสายการบินออกมาแถลง “ไม่เพียงพอ” ที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน
“ผมไม่เชื่อตัวเลขก่อนหักภาษีพวกนั้น” เขาให้สัมภาษณ์กับบีบีซี
แควนตัส ประกาศมาตรการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะลดจำนวนพนักงานลง 5,000 ตำแหน่ง เลื่อนการรับมอบเครื่องบินใหม่ งดขยายกิจการสายการบินโลว์คอสต์ในเครือเดียวกันอย่าง “เจ็ตสตาร์” และยกเลิกเที่ยวบินในบางเส้นทางเพื่อกระตุ้นผลกำไร