เอเอฟพี - สื่ออเมริกันรายงานวานนี้ (27 ส.ค.) ว่ากลุ่มแฮกเกอร์ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นชาวรัสเซียได้ลอบเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของกิจการยักษ์ใหญ่ด้านการเงินและการธนาคาร “เจพีมอร์แกนเชส” กับธนาคารอีกแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา จุดประกายให้เอฟบีไอต้องเปิดฉากการสืบสวน
สถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กรายงานว่า แหล่งข่าวสองคนที่ใกล้ชิดกับการสืบสวนคดีนี้ยืนยันว่า สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) กำลังตรวจสอบว่าคดีนี้เป็นการแก้เผ็ดของรัสเซียหรือไม่ ทั้งนี้ มอสโกถูกสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรเนื่องจากต้องสงสัยว่าคอยส่งเงินและยุทโธปกรณ์สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน
แม้ว่า บลูมเบิร์ก และวอสตรีทเจอร์นัลจะเสนอรายงานข่าวคดีจารกรรม แต่ก็ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียเป็นผู้บงการการฝ่าฝืนกฎหมายครั้งนี้ และสื่อทั้งสองสำนักระบุว่ายังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า แฮกเกอร์กลุ่มนี้ได้สร้างความเสียหายให้ระบบอย่างไร หรือขโมยข้อมูลใดไปบ้าง
บลูมเบิร์กรายงานว่า การที่จารชนกลุ่มนี้เจาะผ่านระบบรักษาความปลอดภัยอันซับซ้อนของธนาคารได้นั้นสะท้อนว่าพวกเขามีทักษะความชำนาญสูงมาก “ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยหลายคนกล่าวว่า พวกเขาดูมีความสามารถสูงกว่าแฮกเกอร์โดยทั่วไปมาก”
สื่ออเมริกันเจ้านี้ระบุว่า เหล่าพนักงานสืบสวนซึ่งรวมถึงสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) กำลังตรวจสอบด้วยว่า การจู่โจมครั้งนี้เป็นฝีมือของอาชญากรชาวรัสเซีย หรือชาติยุโรปตะวันออกหรือไม่
นอกจากนี้ เอ็นเอสเอกำลังตรวจสอบว่าการลอบเจาะระบบออนไลน์คราวนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คล้ายๆ กันที่เกิดขึ้นกับบรรดาธนาคารในยุโรปหรือไม่
เอฟบีไอระบุว่า กำลังสืบสวนรายงานดังกล่าวแต่ไม่ได้แถลงยืนยันรายละเอียดในประเด็นนี้
เจ. ปีเตอร์ โดนัลด์ โฆษกในนครนิวยอร์กว่า “เรากำลังให้ความร่วมมือกับหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ (United States Secret Service) เพื่อประเมินของเขตผลกระทบที่สถาบันการเงินหลายแห่งของสหรัฐฯ ได้รับ หลังจากได้รับแจ้งเมื่อเร็วๆ ว่าพวกเขาถูกโจมตีผ่านโลกไซเบอร์”
“การต่อสู้กับภัยคุกคามและอาชญากรในโลกไซเบอร์ยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และเรากำลังร่วมมือกับบรรดาบริษัทอเมริกันต่อสู้กับการโจมตีในโลกไซเบอร์อย่างสม่ำเสมอ”
ทางด้านโฆษกของเจพีมอร์แกน ยังไม่ได้ออกมาแถลงยืนยันคดีนี้อย่างละเอียด แต่ได้ระบุในคำแถลงว่า “โชคร้ายที่บริษัทระดับเราเผชิญการโจมตีทางโลกไซเบอร์อยู่แทบทุกวัน”
“เราได้วางระบบป้องกันภัยคุกคามทุกรูปแบบไว้มากมายหลายชั้น และคอยเฝ้าระวังการฉ้อโกงอยู่เสมอ”
แหล่งข่าวซึ่งมีความใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า เมื่อพบพฤติการณ์ไม่ชอบมาพากล ธนาคารจะแจ้งให้หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทราบเป็นประจำ
แหล่งข่าวผู้นี้ชี้ว่า “หนึ่งในวิธีการหลักที่เราใช้รับมือคือ การสอดส่องพฤติกรรมฉ้อฉล แต่ครั้งนี้เรากลับตรวจไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด”