เอเจนซีส์ – กระทรวงกลาโหมจีนออกมาตอบโต้เพนตากอน ที่กล่าวหาว่าเครื่องบินขับไล่ของแดนมังกร บินเข้าไปประชิดกับเครื่องบินตรวจการณ์ทางทหารของอเมริกัน ณ บริเวณนอกเกาะไหหลำ จนอยู่ในระยะที่ถือเป็น “อันตรายมาก” โดยปักกิ่งนอกจากบอกว่า สิ่งที่วอชิงตันระบุออกมานี้ “ไม่มีมูลความจริง” แล้ว ยังศอกกลับว่า เป็นเพราะพฤติการณ์ในการ “การกระหน่ำสอดแนมอย่างถี่ยิบ” ของสหรัฐฯต่างหาก ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงที่เครื่องบินของทั้งสองฝ่ายอาจจะเกิดการชนกันกลางอากาศ
ก่อนหน้านี้ พลเรือตรี จอห์น เคอร์บี โฆษกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้แถลงข่าวเมื่อคืนวันศุกร์ (22 ส.ค.) ว่า ในวันที่ 19 สิงหาคม เครื่องบินขับไล่รุ่น เจ 11 ติดอาวุธพร้อมสรรพของจีนลำหนึ่ง ได้บินเข้าประชิดเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำและตรวจการณ์ทางทะเลรุ่น พี-8 โพไซดอนของสหรัฐฯรวม 3 ครั้ง โดยครั้งหนึ่งบินอยู่ด้านล่างของเครื่องบินทหารอเมริกันลำนี้, ครั้งหนึ่งบินเฉียดส่วนหัวของ พี-8 ลำนี้ และจากนั้นก็บินเคียงขนาน โดยที่ปลายปีกของทั้ง 2 ลำอยู่ห่างกันไม่ถึง 30 ฟุต (9 เมตร)
ระหว่างที่บินประชิดเครื่องบิน พี-8 โพไซดอน ของสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นที่บริเวณห่างจากเกาะไห่หนาน (ไหหลำ) ของจีนไปทางตะวันออกราว 135 ไมล์ (220 กิโลเมตร) นี้ มีอยู่ช่วงหนึ่ง เครื่องบินขับไล่ของจีนยังบินควงสว่าน โดยดูเหมือนเพื่ออวดให้เครื่องบินอเมริกันมองเห็นอาวุธที่ติดตั้งมาของตน
เคอร์บี ระบุว่า พฤติการณ์ของเครื่องบินขับไล่จีนเช่นนี้ ถือเป็นปฏิบัติการสกัดกั้นซึ่งมี “อันตรายมาก” และขัดต่อกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ รวมทั้งเสริมว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้วนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมาที่เครื่องบินของจีนเข้าทำการ “สกัดกั้นระยะประชิด” เช่นนี้
ต่อมาในคืนวันเสาร์ (23 ส.ค.) สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนได้เผยแพร่คำแถลงของ พ.อ.หยาง อี่ว์จิว์น โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน ที่ระบุว่า ข้อกล่าวหาของเพนตากอนในเรื่องนี้ “ไม่มีมูลโดยสิ้นเชิง” พร้อมกับตอกกลับว่า กองทัพอเมริกันต่างหากที่กำลังดำเนินการตรวจการณ์สอดแนมใกล้น่านน้ำจีน
คำแถลงของหยางระบุด้วยว่า เครื่องบินทหารของสหรัฐฯจำนวน 2 ลำ เป็นเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำลำหนึ่ง และเครื่องบินตรวจการณ์อีกลำหนึ่ง ได้บินเข้าไปในน่านน้ำห่างจากเกาะไห่หนานของจีนไปทางตะวันออกราว 220 กิโลเมตร เพื่อทำการตรวจการณ์อย่างใกล้ชิดเมื่อตอนเช้าวันอังคาร (19) ทั้งนี้ สำนักข่าวเอพีอธิบายเพิ่มเติมว่า ฝ่ายจีนเป็นฝ่ายเดียวซึ่งบอกว่า ในขณะเกิดการเผชิญหน้าครั้งนี้ สหรัฐฯนอกจาก พี-8 โพไซดอนแล้ว ยังมีเครื่องบิน พี-3 โอไรออน ซึ่งเป็นเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำและตรวจการณ์อีกลำหนึ่งด้วย ขณะที่การแถลงของเพนตากอนนั้น ไม่มีการเอ่ยถึงเครื่องบินลำที่สองเลย
โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนแจกแจงต่อไปว่า หลังจากเครื่องบินทหารสหรัฐฯ 2 ลำบินเข้ามาใกล้ เครื่องบินขับไล่ของจีนลำหนึ่งจึงขึ้นปฏิบัติการระบุอัตลักษณ์และตรวจพิสูจน์ยืนยันตามปกติ โดยที่นักบินของเครื่องบินจีนนั้นปฏิบัติการด้วยความเป็นมืออาชีพ และรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากเครื่องบินสหรัฐฯ
หยางยังสำทับว่า การที่สหรัฐฯดำเนินการตรวจการณ์อย่างใกล้ชิดต่อจีนอย่างขนานใหญ่และบ่อยครั้งต่างหาก ที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงทางอากาศและทางทะเลของทั้งสองฝ่าย และเป็นรากเง่าของการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ขึ้นมา
เขากล่าวว่า จีนเรียกร้องให้ฝ่ายสหรัฐฯเคารพปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศและวิธีปฏิบัติระหว่างประเทศ, เคารพความวิตกกังวลต่างๆ ของพวกประเทศริมชายฝั่ง และปฏิบัติอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อความแตกต่างในประเด็นความมั่นคงทางอากาศและทางทะเลระหว่างทั้งสองฝ่าย
หยางบอกว่า ฝ่ายสหรัฐฯควรที่จะทำตามหลักการแห่งการไม่ขัดแย้งกัน, การไม่เผชิญหน้ากัน, การเคารพกันและกัน, และการร่วมมือกันแบบชนะกันทุกฝ่าย, มีปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม, ลดและในที่สุดยุติการตรวจการณ์แบบใกล้ชิดต่อจีน เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับสายสัมพันธ์ทางทหารระดับทวิภาคี