รอยเตอร์ - รัสเซียในวันศุกร์ (22 ส.ค.) สั่งห้ามพลเมืองญี่ปุ่นเข้าประเทศหลายคน ขยายขอบเขตมาตรการแก้เผ็ดประเทศต่างๆที่คว่ำบาตรมอสโกต่อวิกฤตในยูเครน ท่ามกลางข้อพิพาทเกี่ยวกับอาณาเขตทางทะเลระหว่างสองฝ่าย
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในถ้อยแถลงว่าคำสั่งแบนดังกล่าวเป็นตอบโต้กรณีที่ญี่ปุ่นจำกัดวีซาพลเมืองรัสเซียจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามกระทรวงต่างประเทศของทั้งสองชาติไม่ได้เปิดเผยว่ามีใครบ้างที่อยู่ในบัญชีดำเหล่านั้น
“มาตรการตอบโต้เช่นนี้จะส่งผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและรัสเซีย มันน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง” กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุในถ้อยแถลง
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อมอสโก กรณีที่ผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และสิ่งที่พวกตะวันตกกล่าวหาว่ามอสโกให้การสนับสนุนนักรบแบ่งแยกดินแดนที่กำลังสู้รบกับกองกำลังรัฐบาลทางภาคตะวันออกของยูเครน
ในวันศุกร์ (22) วิกฤตลุกลามขึ้นไปอีก เมื่อคาราวานบรรเทาทุกข์ของรัสเซีย ข้ามพรมแดนเข้าไปในยูเครนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเคียฟหรืออารักขาโดยเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์นานาชาติ จนทางสหภาพยุโรปออกมาประณามว่าเป็นการละเมิดพรมแดนของยูเครนอย่างโจ่งแจ้ง
สำหรับมาตรการคว่ำบาตรของญี่ปุ่นที่มีต่อรัสเซีย ถือว่าเบาบางกว่าเหล่าพันธมิตรใกล้ชิดอื่นๆ ทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เนื่องจากไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์กับมอสโกเสียหายไปมากกว่านี้
ญี่ปุ่นหวังหล่อหลอมความสัมพันธ์ใกล้ชิดทั้งด้านพลังงานและเศรษฐกิจกับรัสเซีย ชาติที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันและก๊าซ หลังความสัมพันธ์ของสองฝ่ายตกอยู่ท่ามกลางความตึงเรียดมาหลายทศวรรษตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อันมีต้นตอจากข้อพิาทอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะต่างๆ ในแปซิฟิก
รัสเซียเข้ายึดหมุ่เกาะ ซึ่งญี่ปุ่นเรียกว่า “ดินแดนทางเหนือ” แต่รัสเซียรู้จักในนาม “กลุ่มเกาะคูริลใต้” ในช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 และข้อพิพาทดังกล่าวนี้เองคือตัวขัดขวางขัดขวางทั้งสองประเทศจากการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นประท้วงอย่างดุเดือดต่อการซ้อมรบบนหมู่เกาะดังกล่าวของรัสเซีย