รอยเตอร์ - รัสเซียเริ่มต้นซ้อมรบทางทหารในหมู่เกาะแปซิฟิกแห่งหนึ่ง ซึ่งญี่ปุ่นก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่บางส่วนเช่นกัน ความเคลื่อนไหวที่เป็นไปได้ว่าอาจกัดเซาะความพยายามของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่เปิดประตูสำหรับเจรจาข้อพิพาทกับมอสโก แม้ยังมีความตึงเครียดเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน
“การซ้อมรบที่เริ่มต้นขึ้นแล้วนี้เกี่ยวข้องกับหน่วยทหารในภูมิภาค ซึ่งกำลังประจำการอยู่ในหมู่เกาะคูริล” นาวาเอก อเล็กซานเดอร์ กอร์เดเยฟ โฆษกมณฑลทหารตะวันออกของรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์
นายกอร์เดเยฟเปิดเผยด้วยว่า การซ้อมรบครั้งนี้เกี่ยวข้องกับทหารมากกว่า 1,000 นาย เฮลิคอปเตอร์จู่โจม Mi-8AMTSh จำนวน 5 ลำและอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ อีก 100 ชิ้น
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นบอกในกรุงโตเกียวว่า ทางกระทรวงกำลังตรวจสอบว่าการซ้อมรบดังกล่าวมีขึ้นในพื้นที่ของเกาะที่ญี่ปุ่นพิจารณาว่าเป็นดินแดนของตนเองหรือไม่ ทั้งนี้หมู่เกาะแห่งนี้ รัสเซีย เรียกว่า “หมู่เกาะคูริลใต้” ส่วนญี่ปุ่นเรียก “นอร์ทเทิร์นเทร์ริทอรีส์ หรือ ดินแดนทางตอนเหนือ”
“ถ้าพวกเขาซ้อมรบทางทหารบนนอร์ทเทิร์นเทร์ริทอรีส์ ด้วยข้อเท็จจริงจากจุดยืนของญี่ปุ่นต่อหมู่เกาะดังกล่าว ไม่มีทางเลยที่เราจะยอมรับมันได้ เราได้แจ้งจุดยืนนั้นให้ฝ่ายรัสเซียทราบแล้วและร้องขอคำชี้แจงด้วย” กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นระบุ
ข้อพิพาทด้านเขตแดนทางทะเล ก่อสัมพันธ์อันมึนตึงระหว่างญี่ปุ่นและรัสเซียมาตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยกองกำลังโซเวียตบุกยึดเกาะ 4 แห่งทางใต้สุดของหมู่เกาะคูริล และข้อขัดแย้งนี้เองคือตัวขัดขวางทั้งสองประเทศจากการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการ
ในส่วนของรัสเซีย ไม่ลงรอยกับชาติมหาอำนาจตะวันตก ต่อกรณีที่นาโต้เรียกว่าการเคลื่อนกำลังพลจำนวนมากประชิดชายแดนยูเครน ในความเป็นไปได้สำหรับเข้ารุกรานเพื่อสนับสนุนกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโกทางภาคตะวันออก แต่เครมลินก็ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม นายอาเบะได้วางกรอบความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย ชาติผู้ร่ำรวยทรัพยากร คือหนึ่งในเป้าหมายทางการทูตอันสำคัญ ด้วยแม้รัฐบาลของเขาจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อมอสโก เคียงข้างพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ แต่พวกเขาก็เลือกใช้มาตรการที่เบาบางกว่าทางวอชิงตัน ในความพยายามรักษาความสัมพันธ์กับรัสเซีย