เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน แห่งอินโดนีเซีย ออกคำสั่งในวันพฤหัสบดี (14) เพิ่มมาตรการคุมเข้มรักษาความปลอดภัยใน “จังหวัดปาปัว” หลังเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดของชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่นับตั้งแต่วันอังคาร (12) ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 5 ราย และได้รับบาดเจ็บหลายราย
รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงจาการ์ตา ระบุว่า ประธานาธิบดียุโธโยโน วัย 64 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำแดนอิเหนามาตั้งแต่เมื่อปี 2004 และกำลังจะหมดวาระในเดือนตุลาคมปีนี้ ได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียยกระดับการรักษาความปลอดภัยใน “จังหวัดปาปัว” จังหวัดที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ หลังจากเกิดการปะทะกันของชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่จนมีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 5 ราย
ด้านปุดโจ ซูลิสตีโอ โฆษกสำนักงานตำรวจประจำจังหวัดปาปัว ออกมาเปิดเผยผ่านสำนักข่าวอันตาราของทางการว่า เหตุปะทะกันรอบล่าสุด เกิดขึ้นหลังจากพวกชนเผ่า “ดานี” ยกกำลังมาแก้แค้นชนเผ่า “ อาปรี โปโรส” ในวันอังคาร (12) โดยเชื่อว่าฝ่ายหลังอยู่เบื้องหลังการสังหารโหด “โกเรอา วาการ์” ผู้นำชนเผ่าดานี ที่มีผู้พบร่างไร้วิญญาณของเขาลอยอยู่ในแม่น้ำสายหนึ่งในเขตมิมิกาของจังหวัดปาปัวเมื่อวันจันทร์ (11)
โฆษกตำรวจประจำจังหวัดปาปัวเผยเพิ่มเติมว่า สมาชิกชนเผ่าดานีที่โกรธแค้นได้ยกพวกบุกหมู่บ้านของเผ่าอาปรี โปโรส ก่อนลงมือจุดไฟเผาบ้านเรือน และทำร้ายสมาชิกชนเผ่าตรงกันข้ามอย่างบ้าคลั่งด้วยมีด หอกและดาบ จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายที่มีอายุระหว่าง 14 ปี ไปจนถึง 70 ปี ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งส่วนใหญ่ถูกแทงด้วยอาวุธมีคมได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่
ล่าสุดมีรายงานว่า ทางการอินโดนีเซียได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนกว่า 1,000 นายพร้อมอาวุธและอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนลงพื้นที่เกิดเหตุในจังหวัดปาปัวที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศปาปัวนิวกินีแล้ว เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันมิให้ชนเผ่าพื้นเมืองทั้งสองโจมตีแก้แค้นกันไปมาอีก ขณะเดียวกันได้มีการตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อสืบสวนเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อไป