เอเอฟพี - การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาอินโดนีเซียเปิดฉากขึ้นแล้วในวันนี้ (9) ท่ามกลางความคาดหมายว่าพรรคฝ่ายค้านหลักจะได้คะแนนนำโด่ง ซึ่งจะเป็นการกรุยทางให้ผู้สมัครคนดังอย่าง โจโค วิโดโด ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา ก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
วิโดโด ซึ่งมีชื่อเล่นเรียกขานกันทั่วไปว่า “โจโควี” เป็นนักการเมืองดาวรุ่งพุ่งแรงที่หลายฝ่ายมองว่าเป็น “เต็งหนึ่ง” สำหรับเก้าอี้ประธานาธิบดีอิเหนาคนต่อไป หลังจากที่อินโดนีเซียมีผู้นำที่มาจากฝ่ายทหาร หรือไม่ก็มหาเศรษฐีมาตลอด 30 ปี นับตั้งแต่ยุคเผด็จการซูฮาร์โต
อดีตพ่อค้าเฟอร์นิเจอร์ วัย 52 ปีซึ่งเข้ารับตำแหน่งพ่อเมืองจาการ์ตาเมื่อปี 2012 ชนะใจชาวอิเหนาจำนวนมากด้วยอุปนิสัยติดดินและเรียบง่าย บ่อยครั้งที่เขาเข้าไปเยี่ยมชุมชนแออัดโดยสวมเสื้อเชิร์ตลายสก็อตต์ที่ชาวบ้านเห็นจนคุ้นตา
“เราคิดว่าผู้ว่าฯ คนนี้ทำงานดีและเป็นคนซื่อสัตย์... เขาน่าจะสร้างอนาคตที่สดใสให้กับอินโดนีเซียได้” เดนี อาร์เดียนเชีย พนักงานประจำร้านขายของวัย 25 ปี กล่าว
ผลโพลทุกสำนักบ่งชี้ตรงกันว่า พรรคพีดีไอ-พี ของวิโดโดมีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่งสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาที่มาถึงในวันนี้ (9) และพรรคยังมีมติเสนอชื่อ วิโดโด เป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกด้วย
การเลือกตั้งทั่วอินโดนีเซียซึ่งครอบคลุมถึง 3 เขตเวลา เปิดฉากขึ้นท่ามกลางสายฝนในจังหวัดปาปัวทางตะวันออกสุดของอินโดนีเซียเมื่อเวลา 07.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (05.00 น.ในไทย) แต่เจ้าหน้าที่เตือนว่าอุปสรรคด้านการขนส่งทำให้หน่วยเลือกตั้งอย่างน้อย 30 เขตอาจต้องเลื่อนการลงคะแนนออกไปถึง 3 วัน
“หน่วยเลือกตั้งในเมืองใหญ่ๆ เช่น ชัยปุระ เปิดให้ใช้สิทธิลงคะแนนแล้ว แต่เมื่อคืนนี้เครื่องบินไม่สามารถเดินทางไปถึงบางหน่วยเลือกตั้งที่อยู่บนภูเขาได้” เบ็ตตี วานาเน เจ้าหน้าที่อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดปาปัวให้สัมภาษณ์ และยอมรับว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนมากพอที่จะส่งบัตรเลือกตั้งและหีบบัตรไปยังหน่วยเลือกตั้งทุกแห่งได้ทันเวลา
ขณะเดียวกันก็มีรายงานจากสื่อท้องถิ่นว่า ผู้สมัครบางคนฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งในนาทีสุดท้ายโดยเอาน้ำมันประกอบอาหาร, น้ำตาล และข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ไปแจกชาวบ้าน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย สุตาร์มาน แถลงว่า ตำรวจเกือบ 500,000 นายถูกส่งไปดูแลความสงบเรียบร้อยตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากทหาร 20,000 นายและเจ้าหน้าที่พลเรือนอีกกว่า 1 ล้านคน
เหตุรุนแรงในช่วงหาเสียงเลือกตั้งส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่จังหวัดอาเจะห์ทางภาคตะวันตก ซึ่งมีทั้งการกราดยิงและใช้อาวุธโจมตีหลายครั้ง
ศึกเลือกตั้งคราวนี้อาจเป็นฝันร้ายสำหรับพรรคประชาธิปไตยของประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน ซึ่งผลสำรวจชี้ว่าคะแนนนิยมร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 4 ท่ามกลางกระแสข่าวฉาวเรื่องพฤติกรรมทุจริตคอรัปชันของนักการเมือง
การเลือกตั้งรัฐสภาอินโดนีเซียซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่สิ้นยุคเผด็จการในปี 1998 ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นตัวชี้วัดว่าใครมีสิทธิลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้
พรรคการเมืองหนึ่งๆ หรือกลุ่มพรรคการเมือง จะต้องได้ที่นั่งถึง 20% จากทั้งหมด 560 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร หรือได้คะแนนโหวตจากทั้งประเทศเกิน 25% จึงจะมีสิทธิ์ส่งรายชื่อผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
ในบรรดา 12 พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.คราวนี้มีเพียงพรรคพีดีไอ-พีพรรคเดียวที่ถูกมองว่ามีโอกาสส่งชื่อผู้สมัครประธานาธิบดีได้ ส่วนพรรคอื่นๆ คาดว่าต้องมีการจับขั้วกันจึงจะผ่านเกณฑ์