เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ชาวอินโดนีเซียแห่แหนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศในวันนี้ (9 ก.ค.) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นศึกเลือกตั้งที่สูสีและดุเดือดที่สุดนับตั้งแต่สิ้นยุคเผด็จการซูฮาร์โต โดยเป็นการชิงชัยกันระหว่าง โจโค วิโดโด ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาซึ่งมีบุคลิกติดดิน กับ พล.ท.ปราโบโว สุเบียนโต ซึ่งมีประวัติด่างพร้อยด้านสิทธิมนุษยชน
จากการรณรงค์หาเสียงชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร และข่าวลือทางลบที่ทำให้คะแนนนิยมของผู้สมัครตัวเก็งอย่าง วิโดโด เริ่มแผ่วลงในช่วงท้ายๆ ในที่สุดประชาชนชาวอิเหนาจะต้องเป็นผู้ตัดสินว่าใครที่พวกเขาต้องการให้มาเป็นผู้นำคนใหม่ของประเทศประชาธิปไตยใหญ่อันดับ 3 ของโลกแห่งนี้
วิโดโด วัย 53 ปี อดีตพ่อค้าส่งออกเฟอร์นิเจอร์ ถือเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีคนแรกที่กระแสนิยมมาแรงทั้งที่ไม่มีประวัติเชื่อมโยงกับฝ่ายทหารมาก่อน และถูกมองว่าเป็นผู้นำแนวใหม่ที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยของอินโดนีเซียเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม
ในส่วนของ ปราโบโว วัย 62 ปีนั้นเป็น “อดีตลูกเขย” ของนายพลซูฮาร์โต และยอมรับว่าตนเคยสั่งลักพาตัวนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยก่อนที่รัฐบาลเผด็จการซูฮาร์โตจะล่มสลายลงในปี 1998 บุคลิกผู้นำที่แข็งแกร่งของ ปราโบโว ทำให้เขาชนะใจพลเมืองอิเหนาได้ไม่น้อย ขณะที่นักวิจารณ์เตือนว่า การก้าวสู่อำนาจของ ปราโบโว อาจจะทำให้อินโดนีเซียหวนกลับไปสู่ยุคเผด็จการ
“การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญสำหรับเส้นทางประชาธิปไตยของอินโดนีเซีย” โทเบียส บาซูกิ นักวิเคราะห์จากศูนย์เพื่อการศึกยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ (CSIS) ในกรุงจาการ์ตา ระบุ
หน่วยเลือกตั้งส่วนใหญ่ในจังหวัดปาปัวทางตะวันออกสุดของอินโดนีเซียเริ่มเปิดหีบตั้งแต่เวลา 07.00 น. (05.00 น.ตามเวลาในไทย) ขณะที่บางแห่งซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลยังต้องรอบัตรเลือกตั้งและหีบบัตร เนื่องจากมีฝนตกหนักและลมแรงต่อเนื่องมาหลายวันทำให้การขนส่งบัตรเลือกตั้งค่อนข้างยากลำบาก
คาธารีนา อูโตโม วัย 38 ปี เป็นคนแรกที่เดินเข้าไปหย่อนบัตรในหน่วยเลือกตั้งเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดปาปัว ดวงตาของเธอยังคงอิดโรยจากการอดนอนชมศึกฟุตบอลโลกเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
“ฉันเลือก โจโควี เพราะเขาทำตัวใกล้ชิดประชาชน และยังเดินทางมาหาเสียงถึงปาปัวด้วย” อูโตโม ซึ่งเป็นแม่บ้านกล่าว
ทันทีที่ฟ้าสางในกรุงจาการ์ตา ตำรวจเริ่มตั้งจุดตรวจบริเวณสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใกล้กับหน่วยเลือกตั้งที่คาดว่า วิโดโด จะเดินทางออกมาใช้สิทธิท่ามกลางผู้สนับสนุนจำนวนมาก
เมื่อหลายเดือนก่อน วิโดโด หรือที่ชาวอิเหนาเรียกขานชื่อเล่นว่า “โจโควี” ถูกมองว่าเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีที่ “นอนมา” ด้วยกระแสนิยมที่ล้นหลาม โดยเฉพาะจากชาวเมืองหลวงจาการ์ตา แต่ในระยะหลังๆ ฐานเสียงของ วิโดโด เริ่มลดลงเพราะมีการปล่อยข่าวลือว่าเขามีเชื้อสายจีนและนับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่บั่นทอนภาพลักษณ์อย่างรุนแรงสำหรับบุคคลที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศมุสลิมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
วิโดโด ปฏิเสธข่าวลือนี้อย่างชัดเจน โดยยืนยันว่าเขาเป็นชาวมุสลิมอย่างแน่แท้ และถึงกับเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะเพื่อพิสูจน์ความศรัทธาในศาสนาอิสลาม
ผลสำรวจล่าสุดเมื่อวานนี้ (8) พบว่า วิโดโด มีคะแนนนำอดีตนายพลสุเบียนโตอยู่เพียง 2.7% และเนื่องจากประชาชนจำนวนมากยังไม่ตัดสินใจเลือกข้าง นักวิเคราะห์จึงมองว่าโอกาสที่ผลเลือกตั้งจะพลิกล็อกมีสูงมาก
ที่ผ่านมาการสุ่มนับคะแนนโดยโพลสำนักต่างๆ ในวันเลือกตั้งมักจะบ่งชี้ตัวผู้ชนะได้อย่างไม่ผิดพลาด ส่วนผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะประกาศได้ในอีกราวๆ 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ผู้ที่ชนะเลือกตั้งจะต้องรับหน้าที่กุมบังเหียนแดนอิเหนาต่อจากประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน ซึ่งจะหมดวาระลงในเดือนตุลาคมนี้