เอเอฟพี – องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ตีแผ่รายงานซึ่งสะท้อนถึงความรุนแรงต่อสตรีเพศในแถบเอเชียแปซิฟิก โดยพบว่าผู้ชายเกือบร้อยละ 25 ใน 6 ประเทศเคย “ข่มขืน” ผู้หญิง แม้ส่วนใหญ่จะกระทำกับคู่รักของตนเองก็ตาม
รายงานของยูเอ็นที่เผยแพร่ในวันนี้ (10) ถือเป็นการศึกษาวิจัยเรื่องความรุนแรงต่อเพศหญิงระดับภูมิภาคครั้งแรกในเอเชีย-แปซิฟิก โดยสรุปจากการสัมภาษณ์ชาย 10,000 คนที่มีอายุระหว่าง 18-49 ปี ในบังกลาเทศ, จีน, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ศรีลังกา และปาปัวนิวกินี
“ความรุนแรงต่อผู้หญิงคือความจริงที่ยากจะรับได้สำหรับใครหลายคน” โรเบอร์ตา คลาร์ก ผู้อำนวยการองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) กล่าวระหว่างแถลงรายงานที่กรุงเทพมหานคร
“เราควรจะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมที่อนุญาตให้ผู้ชายสามารถใช้กำลังในการควบคุมผู้หญิงได้”
ยูเอ็นชี้ว่า ระดับความแพร่หลายของการข่มขืนนั้นแตกต่างไปในแต่ละพื้นที่ และตัวอย่างที่ยูเอ็นยกมานำเสนอก็ไม่ใช่ข้อสรุปว่าทั้งประเทศจะต้องเป็นเช่นนั้น
จากผลวิจัยที่นิยามการ “ข่มขืน” ว่าเป็นการมีบังคับมีเพศสัมพันธ์โดยไม่เต็มใจ (non-consensual, penetrative sex) ผู้ชายที่ให้สัมภาษณ์ร้อยละ 11 ยอมรับว่า เคยข่มขืนหญิงที่ไม่ใช่คู่ของตนเอง และตัวเลขจะขยับเป็นร้อยละ 24 หากนับรวมการข่มขืนคู่รักของตนด้วย
ในกลุ่มชายที่เคย “ข่มขืน” ผู้หญิงมาแล้ว มีอยู่ไม่ถึงครึ่งที่เคยทำเช่นนี้กับผู้หญิงมากกว่า 1 คน
สถิติที่น่าตกใจก็คือ ชายซึ่งมีพฤติกรรมข่มขืนหญิงราวๆ ครึ่งหนึ่งยังเป็นวัยรุ่น ร้อยละ 12 อายุยังไม่ถึง 15 ปีด้วยซ้ำ และส่วนใหญ่ตอบตรงกันว่า พวกเขาไม่เคยถูกกฎหมายลงโทษ
ผลสำรวจพบว่า พื้นที่ซึ่งมีการข่มขืนสตรีอย่างแพร่หลายที่สุด (มากกว่า 62%) คือ เกาะบูเกนวิลล์ในปาปัวนิวกินี ซึ่งเผชิญสงครามมาจนถึงปี 1998 และคนในชุมชนยังคงยึดหลักยุติธรรมในท้องถิ่นมากกว่ากฎหมายบ้านเมือง
ความแพร่หลายของการข่มขืนลดลงมาอยู่ที่ 49% ในจังหวัดปาปัวของอินโดนีเซีย ส่วนที่กรุงจาการ์ตาพบว่า ชายผู้ให้สัมภาษณ์ร้อยละ 26 เคยข่มขืนผู้หญิง
ผู้จัดทำรายงานย้ำว่า ข้อมูลนี้ไม่ใช่ภาพรวมทางสถิติอย่างเป็นทางการสำหรับ 6 ประเทศที่มีการสำรวจ และไม่ใช่สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างไม่ได้ถูกสอบถามตรงๆ ว่าพวกเขาเคย “ข่มขืน” ผู้หญิงหรือไม่ แต่ถูกตั้งคำถามโดยอ้อม เช่น “คุณเคยบังคับให้ผู้หญิงที่ไม่ใช่แฟนและภรรยามีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือเปล่า” หรือ “คุณเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่อยู่ในสภาพเมามายเกินกว่าจะยืนยันความเต็มใจของพวกเธอหรือไม่” เป็นต้น