xs
xsm
sm
md
lg

ตะลึง!! หญิงปาปัวนิวกินี 2 ใน 3 ถูกทำร้ายทารุณ ครึ่งหนึ่งถูกข่มขืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ผู้หญิงในประเทศอันยากจนแร้นแค้นอย่างปาปัวนิวกินีต้องประสบกับความรุนแรงอย่าง “โหดร้ายป่าเถื่อน” โดยที่สองในสามของครอบครัวทั้งหมดมีสตรีถูกทำร้ายทารุณด้วยมีด ขวาน และแส้ งานวิจัยฉบับใหม่ที่นำออกเผยแพร่วันนี้ (13 ส.ค.) ระบุ

จากการสัมภาษณ์ชาวปาปัวนิวกินีในเขตริโก ของจังหวัดเซ็นทรัลโพรวินซ์ งานวิจัยฉบับนี้ซึ่งจัดทำโดย “ไชลด์ฟันด์” (ChildFund) องค์การการกุศลของออสเตรเลีย ได้สาธยายพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงสุดขีดต่างๆ เป็นต้นว่า หญิงคนหนึ่งถูกชายแปลกหน้ากัดริมฝีปากล่างจนฉีกขาด และหญิงอีกผู้หนึ่งถูกทำร้ายโดยสามีที่ใช้ร่างกายของลูกชายซึ่งถูกต่อยจนสลบเป็นอาวุธ

แม้รัฐบาลจะไม่เก็บข้อมูลความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็กและสตรีในชาติเอเชียแปซิฟิกซึ่งยังดิบเถื่อนอยู่มากแห่งนี้ แต่ไชลด์ฟันด์ระบุว่ามีการรายงานกันอย่างแพร่หลายว่าสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับสองในสามของครอบครัวชาวปาปัวนิวกินีจริง กระทั่ง “น่าจะมากกว่าสองในสามเสียอีก”

รายงานฉบับนี้ที่อ้างอิงการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงถึงครึ่งถูกข่มขืนอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต และอีกชิ้นหนึ่งรายงานว่ามีผู้หญิงถึง 86 เปอร์เซ็นต์ถูกทุบตีในช่วงที่เธอตั้งครรภ์อยู่

เมื่อสำรวจในสถิติของผู้ไปพบแพทย์หลังจากถูกข่มขืน พบว่ามากถึงครึ่งหนึ่งมีอายุต่ำกว่า 16 ปี ขณะที่ 1 ใน 4 มีอายุน้อยกว่า 12 ปี และ 1 ใน 10 คนมีอายุต่ำกว่า 8 ขวบ

ทั้งนี้ ไชลด์ฟันด์ได้สัมภาษณ์ผู้หญิงจำนวน 37 คนจาก 4 หมู่บ้านและผู้ชายอีก 14 คนเพื่อจัดทำเป็นกรณีศึกษาต่างๆ สำหรับงานวิจัยฉบับนี้
สองพี่น้องร้องไห้อยู่ข้างหลุมศพของพี่สาวที่เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายทารุณ
ไชลด์ฟันด์ระบุว่าในการวิจัยภาคสนามที่ริโอ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ให้สัมภาษณ์ล้วนแล้วแต่เคยประสบปัญหาการใช้ความรุนแรง และไม่มีแม้แต่คนเดียวที่บอกว่าสามีไม่ทุบตีพวกเธอ

รายงานของไชลด์ฟันด์บอกด้วยว่า ขณะที่อยู่ที่ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาครอบครัวในเมือง พวกเขาพบผู้หญิงที่ผิวหนังถลอกปอกเปิกเป็นแผ่นใหญ่ แก้ม จมูก หรือใบหูแหว่งวิ่นเพราะถูกผู้ทำร้ายเธอกัดเอา ตลอดจนมีผู้หญิงซึ่งมีบาดแผลจากการถูกทำร้ายด้วยหอก มีดเดินป่า มีดสปาร์ตา และแส้

รัฐบาลปาปัวนิวกินีนั้นได้ออกกฎหมายอันเข้มงวดในปีนี้ซึ่งกำหนดให้ผู้ก่ออาชญากรรมทางเพศและอาชญากรรมอื่นๆ ต่อสตรีอาจถูกตัดสินประหารชีวิตหลังจากที่มีกรณีการใช้ความรุนแรงกันอย่างมากมาย เป็นต้นว่า การเผาแม่ยังสาวคนหนึ่งทั้งเป็นโดยอ้างว่าเธอเป็นแม่มด การตัดศีรษะ และการข่มขืนชาวต่างชาติสองคน

องค์การการกุศล “แพทย์ไร้พรมแดน” (เอ็มเอสเอฟ) ระบุว่าปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศซึ่งเกิดขึ้นในปาปัวนิวกินีต้องถือเป็นวิกฤตทางมนุษยธรรม ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นลุกลามใหญ่โตแม้ว่าชาตินี้จะอยู่นอกเขตสงคราม และไม่ใช่ประเทศที่เกิดความไม่สงบ

องค์การนี้ชี้ว่า ความรุนแรงเหล่านี้เป็นสิ่งปกติวิสัยในวิถีทางที่ประชากรเหล่านี้ใช้ตัดสินข้อพิพาทในระดับเผ่า ระดับครอบครัว และระดับบุคคลต่อบุคคล นอกจากนั้นการที่สตรีมีสถานภาพทางสังคมต่ำก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ทั้งนี้องค์การนี้ประมาณการว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของหญิงชาวปาปัวนิวกินีเคยถูกข่มขืนหรือทำร้ายร่างกายอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต

เมื่อปี 2012 โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) จัดให้ปาปัวนิวกินีอยู่ในลำดับที่ 134 จาก 148 ชาติที่มีความไม่เท่าเทียมกันทางเพศสภาวะ และอยู่ในลำดับที่ 156 จาก 186 ประเทศในการจัดอันดับการพัฒนามนุษย์ ซึ่งถือว่าอยู่ในลำดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับบรรดาชาติหมู่เกาะแปซิฟิกอื่นๆ
หญิงชาวปาปัวนิวกินีคนหนึ่งกำลังร้องไห้เพราะสามีที่ชอบซ้อมเธอรอดพ้นจากโทษจำคุก
กำลังโหลดความคิดเห็น