นายกฯ หารือผู้นำปาปัวนิวกินี ขยายความสัมพันธ์ด้านการค้า การลงทุน และด้านวิชาการ เผยต้อนรับนักลงทุนไทย โดยเฉพาะพลังงาน หวังเพิ่มเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ-ปาปัวนิวกินี และจัดหาผู้เชี่ยวชาญส่งเสริมการท่องเที่ยว
วันนี้ (25 มี.ค.) มีรายงานภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการเดินทางเยือนประเทศนิวซีแลนด์และปาปัวนิวกินีอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 21-25 มี.ค. โดยเมื่อเวลา 12.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี ประเทศปาปัวนิวกินี นายกรัฐมนตรีได้พบกับนายปีเตอร์ โอนีล (Peter O’Neil) นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ที่อาคารรัฐสภาปาปัวนิวกินี โดยผู้นำทั้งสองได้หารือทวิภาคียืนยันเปิดศักราชใหม่ความสัมพันธ์ทุกระดับและความร่วมมือรอบด้าน หลังจากนั้นจึงจะมีการหารือแบบเต็มคณะ
โดยนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการหารือว่า ผู้นำทั้ง 2 ประเทศต่างยืนยันความสัมพันธ์ที่มีความราบรื่นในทุกระดับ และถือเป็นการเริ่มศักราชใหม่ของการเพิ่มความสัมพันธ์ขยายความร่วมมือที่ส่งเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน สำหรับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ปาปัวนิวกินีถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ทั้งสองฝ่ายพร้อมจะสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างกันทั้งด้านปริมาณและมูลค่า และหวังว่าจะมีการลงนามโดยเร็วในความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน เพื่อเป็นกลไกส่งเสริมการลงทุนและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนไทยที่จะเข้ามาลงทุนในปาปัวนิวกินี
ด้านวิชาการ ไทยแสดงความพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในสาขาการพัฒนาแก่ปาปัวนิวกินี เช่น สาธารณสุข เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรกรรม ประมง การพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การศึกษา วิทยาศาสตร์ และการท่องเที่ยว ซึ่งการลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการไทย-ปาปัวนิวกินี จะเป็นพื้นฐานในการพัฒนากระชับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ
หลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีทั้งสองเป็นสักขีพยานลงนามความตกลง 2 ฉบับ เพื่อเป็นกลไกผลักดันความร่วมมือ ได้แก่ ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือระหว่างไทยกับปาปัวนิวกินี และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีมอบชุดทดสอบเบื้องต้น (Test Kits) ซึ่งเป็นชุดทดสอบในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ความปลอดภัยของอาหาร และการชันสูตรโรค เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีแก่ประชาชนปาปัวนิวกินี
จากนั้นนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศแถลงข่าวร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีแสดงความยินดี ต้อนรับภาคเอกชนไทยที่สนใจมาลงทุน และยืนยันว่าปาปัวนิวกินีพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลไทยในทุกด้าน และเปิดรับนักลงทุนไทยสาขาต่างๆ เช่น พลังงาน ที่ไทยสนใจด้านการสำรวจและขุดเจาะ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของปาปัวนิวกินี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันเศรษฐกิจปาปัวนิวกินีให้เจริญเติบโตยิ่งขึ้น รวมถึงอยากให้มีการจัดประชุมร่วมไทย-ปาปัวนิวกินีปีละ 1 ครั้ง และนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีจะถือโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยด้วย
นอกจากนี้ได้ชื่นชมบทบาทผู้นำในการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี ซึ่งสตรีชาวปาปัวนิวกินีได้ยกย่องนายกรัฐมนตรีให้เป็นสตรีต้นแบบ ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีหวังให้มีการเพิ่มเส้นทางบินตรงจากกรุงเทพฯ มายังปาปัวนิวกินี และขอให้ไทยช่วยสนับสนุนส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวมาถ่ายทอดให้ความรู้พัฒนาการท่องเที่ยวปาปัวนิวกินี พร้อมอำนวยความสะดวกในการออกวีซ่าให้นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า รัฐบาลไทยยินดีที่จะสนับสนุนและส่งเสริมให้นักธุรกิจไทยมาลงทุนในปาปัวนิกินี รวมถึงร่วมส่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการใช้พัฒนางานในด้านต่างๆ และพร้อมสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว ด้านการผู้เชี่ยวชาญมาช่วยพัฒนาการท่องเที่ยว และจะพิจารณาเรื่องการเปิดเส้นทางการบินเพิ่ม