เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทูตพิเศษจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ออกโรงเตือนบรรดาผู้นำทางการเมืองของ “ซูดานใต้” ในวันอังคาร (12) โดยระบุว่ายูเอ็นเตรียมบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างแข็งขัน หากสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศเอกราชแห่งล่าสุดของโลกนี้ยังไม่ยุติลง ท่ามกลางวิกฤตด้านมนุษยธรรมและความอดอยากขาดแคลนอาหารที่กำลังรุมเร้า
ซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำองค์การสหประชาชาติ ในฐานะทูตพิเศษของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ว่าด้วยปัญหาในซูดานใต้ ออกมาเปิดเผยท่าทีดังกล่าวหลังเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์ ผู้นำซูดานใต้โดยยืนยัน ยูเอ็นอาจไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อบรรดาผู้นำทางการเมืองในประเทศนี้ หากยังคงไม่สามารถยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างขนานใหญ่ รวมถึงการสู้รบในประเทศของตนได้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นในขณะที่ผู้แทนจาก 15 ชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เดินทางมายังกรุงจูบาของซูดานใต้เป็นเวลา 2 วัน เพื่อเข้าหารือกับทั้งประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์ ผู้นำรัฐบาลซูดานใต้ รวมถึงอดีตรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์ ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายกบฏ
ด้านอเล็กซ์ รอนโดส ผู้แทนพิเศษของสหภาพยุโรป (อียู) ประจำภูมิภาค “ฮอร์น ออฟ แอฟริกา” ออกมาแสดงความกังวลถึงการที่ฝ่ายรัฐบาลซูดานใต้และฝ่ายกบฏยังคงทุ่มเทเงินจำนวนมหาศาลไปกับการซื้อหาอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อใช้ในการทำสงครามแย่งชิงอำนาจกัน ในขณะที่ประชาชนชาวซูดานใต้กำลังจะเผชิญกับการเสียชีวิตเพราะความอดอยาก
ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองที่ดำเนินมานานเกือบ 8 เดือนในซูดานใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายพันคนขณะที่ประชาชนอีก 1.5 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเพื่อหนีภัยการสู้รบ ระหว่างกองกำลังที่สนับสนุนนายคิอีร์และนายมาชาร์
ก่อนหน้านี้ องค์การสหประชาชาติออกมาระบุว่า วิกฤตด้านอาหารในซูดานใต้อยู่ในระดับ “เลวร้ายที่สุดในโลก” ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศจะให้ความช่วยเหลือระหว่าง 180-636 ล้านดอลลลาร์แก่ซูดานใต้ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งเลวร้าย