ผู้นำกบฏซูดานใต้สาบานตนรับตำแหน่งรองปธน.ในรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ

เอเจนซีส์ / MGR online – รีค มาชาร์ ผู้นำฝ่ายกบฏซูดานใต้ทำพิธีสาบานตน รับตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนที่ 1 ของประเทศ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่เขาเดินทางกลับเข้าสู่เมืองหลวง เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ

มาชาร์ เดินทางถึงสนามบินนานาชาติกรุงจูบาเมื่อวันอังคาร (26 เม.ย.) และตกลงเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวในอีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น โดยการเข้ารับตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนที่ 1 ของมาชาร์ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพที่ทำไว้กับประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์ ที่เป็นคู่ขัดแย้ง เพื่อยุติสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมานานกว่า 2 ปีในประเทศ

สงครามกลางเมืองในซูดานใต้ที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2013 ได้คร่าชีวิตผู้คนในประเทศนี้ไปหลายพันคน ขณะที่อีกมากกว่า 2 ล้านคนต้องอพยพหนีตายออกจากบ้านเรือนของตน

มาชาร์กล่าวหลังทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนที่ 1 โดยระบุ ตัวเขาคาดหวังว่าสถานการณ์ทางด้านความมั่นคงของซูดานใต้จะเข้าสู่ความมีเสถียรภาพภายในระยะเวลาอันสั้น และจะนำความสงบสุขมาสู่ประชาชนในประเทศนี้

ด้านประธานาธิบดีคิอีร์กล่าวแสดงความยินดีต่อการกลับมาของมาชาร์ และแสดงความเชื่อมั่นว่านับจากนี้ สงครามกลางเมืองในซูดานใต้จะสิ้นสุดลง และสันติภาพ ตลอดจน ความมีเสถียรภาพจะกลับคืนมา

ในอีกด้านหนึ่ง บัน กี-มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ กล่าวชื่นชมการกลับสู่เมืองหลวงของมาชาร์ และว่า นี่ถือเป็นการเริ่มต้น “เฟสใหม่” ในการบังคับใช้ข้อตกลงสันติภาพซูดานใต้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อตกลงสันติภาพอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในซูดานใต้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศเอกราชที่มีอายุน้อยที่สุดของทวีปแอฟริกา ได้ปะทุขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2013 หลังจากประธานาธิบดีคิอีร์ กล่าวหามาชาร์ที่เป็นอดีตรองประธานาธิบดีว่า กำลังวางแผนยึดอำนาจ เป็นเหตุให้ผู้สนับสนุนของทั้งสองฝ่ายจับอาวุธเข้าเข่นฆ่ากันไปมา ท่ามกลางข้อกล่าวหาจากหน่วยงานนานาชาติว่า กองกำลังติดอาวุธของทั้งสองฝ่ายกระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนแบบขนานใหญ่ทั้งการรุมข่มขืน การบังคับหญิงสาวเป็นทาสบำเรอกาม การบังคับเด็กเป็นทหาร ฯลฯ