เอเจนซีส์-เกิดการสู้รบอย่างหนักหน่วงครั้งใหม่ในซูดานใต้ระหว่างกองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์ กับกลุ่มติดอาวุธที่ภักดีต่ออดีตรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์ โดยศูนย์กลางของการสู้รบครั้งใหม่นี้ถูกระบุว่าอยู่ในรัฐ “ไนล์ตอนบน” ที่เป็นแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญของประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า การสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่ายปะทุขึ้นทางตอนใต้ของเมืองมาลาคัล ที่เป็นเมืองเอกของรัฐไนล์ตอนบน รวมถึงพบการปะทะกันที่เมืองอชาบนิล โดยการสู้รบระลอกล่าสุดระหว่างกองกำลังของประธานาธิบดีคิอีร์ กับนักรบฝ่ายกบฏที่ภักดีต่ออดีตรองประธานาธิบดีมาชาร์ เกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากการเจรจาสันติภาพที่มีหลายประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกเป็นคนกลาง และมีกำหนดจัดขึ้นในประเทศเอธิโอเปียมีอันต้องเลื่อนออกไป
ด้านพันเอกฟิลิป อกูเอร์ โฆษกกองทัพซูดานใต้ออกมาแถลงที่กรุงจูบา เมืองหลวงของประเทศโดยระบุ กองกำลังฝ่ายกบฏที่ภักดีต่ออดีตรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์ เป็นฝ่ายที่เริ่มเปิดการโจมตีก่อนในพื้นที่รัฐไนล์ตอนบนตั้งแต่วันศุกร์ (10 ต.ค.) ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้กองทัพซูดานใต้จำเป็นต้องตอบโต้และขับไล่ฝ่ายกบฏออกนอกพื้นที่
อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงของโฆษกกองทัพซูดานใต้ถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงจากฝ่ายกบฏที่ออกคำแถลงยืนยันว่า กองกำลังของฝ่ายรัฐบาลต่างหากที่เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีที่มั่นของฝ่ายกบฏอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้พวกตนต้องตอบโต้
การสู้รบล่าสุดส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากในเมืองมาลาคัลตกอยู่ในความหวาดกลัว โดยประชาชนส่วนใหญ่เลือกที่จะหลบอยู่แต่ภายในบ้านพักของตน เช่นเดียวกับบรรดาร้านค้าและสถานที่สาธารณะทั้งหลายที่พากันปิดให้บริการ
ทั้งนี้ ซูดานใต้ ต้องกลายสภาพเป็นดินแดนแห่งความวุ่นวายนับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จากผลพวงของความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์ และอดีตรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์ ที่ลุกลามบานปลายจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างผู้สนับสนุนของทั้งสองฝ่ายที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วนับหมื่นคน ขณะที่ประชาชนชาวซูดานใต้มากกว่า 1.5 ล้านคนต้องกลายเป็นผู้อพยพหนีภัยการสู้รบ