เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลอิตาลีออกกฎคุมเข้มห้ามเรือสำราญขนาดใหญ่เดินเรือเข้ามาภายในน่านน้ำเขตทะเลสาบ “เซนต์ มาร์ก ลากูน” ของนครเวนิส ระบุเพื่อเป็นการป้องกันนครในสายน้ำอันโด่งดังของอิตาลีแห่งนี้ จากความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะปริมาณการสัญจรทางน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
รายงานข่าวล่าสุดในวันเสาร์ (9) ระบุว่า รัฐบาลอิตาลีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี มัตเตโอ เรนซี ผู้นำหนุ่มวัย 39 ปี ที่เพิ่งก้าวขึ้นครองอำนาจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประกาศมาตรการห้ามเรือสำราญขนาดใหญ่เดินเรือเข้ามาในเขตทะเลสาบเวนิส ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์มาร์กอันโด่งดัง รวมถึงพื้นที่ลำคลองโดยรอบ หลังเกิดความกังวลของชาวเมืองและนักสิ่งแวดล้อมต่อการที่เรือสำราญขนาดใหญ่อาจสร้างความเสียหายให้แก่นครลอยน้ำอันเก่าแก่แห่งนี้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันศุกร์ (8) ที่ผ่านมา รัฐมนตรีจาก 3 กระทรวงของอิตาลี ซึ่งประกอบด้วยกระทรวงคมนาคม กระทรวงการสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรม และพร้อมด้วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ต่างมีมติร่วมให้ความเห็นชอบให้ออกมาตรการจำกัดเรือที่มีระวางขับน้ำเกินกว่า 96,000 ตัน ไม่ให้สัญจรเข้ามาภายในทะเลสาบเวนิส โดยเด็ดขาด ซึ่งจะมีผลใช้ตั้งแต่ปี 2014 - 2015
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าผู้แทนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมของอิตาลี ได้กำหนดให้เรือขนาดใหญ่หันไปใช้เส้นทางเดินเรือผ่านคลองกอนโตร์ตา ซันตา แองเจโล ทดแทนสำหรับเดินเรือไปยังเวนิส ถือเป็นความพยายามเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับเป้าหมายของทางการอิตาลีที่ไม่ต้องการที่จะกีดกันบริษัทที่ทำธุรกิจในประเทศแต่อย่างใด
ทั้งนี้ รัฐบาลอิตาลีเริ่มหันมาจับตาการสัญจรทางน้ำภายในประเทศมากยิ่งขึ้น หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมกับเรือสำราญกอสตา กอนกอร์เดีย ที่อับปางลงนอกชายฝั่งแคว้นทัสคานี จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 ราย เมื่อเดือนมกราคม ปี 2012