เอเอฟพี - เกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกสินค้าสัญชาติอิตาลีพุ่งเข้าชนหอบังคับการที่ท่าเรือเมืองเจนัว เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาของ วันนี้ (8) ส่งผลให้เจ้าหน้าที่บนหอบังคับการเสียชีวิต 3 ราย สูญหายอีกหลายคน และย้ำเตือนชาวอิตาลีให้รำลึกถึงโศกนาฏกรรมเรือสำราญกอสตา กอนกอร์เดีย เมื่อต้นปีที่แล้ว
แรงกระแทกส่งผลให้หอบังคับการซึ่งทำจากเหล็กกล้าเอียงกะเท่เร่ 45 องศา ก่อนที่จะหักโค่นลงไปในน้ำ ซึ่งขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่อยู่บนหอบังคับการท่าเรือราว 14 คน
สื่ออิตาลีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตคนแรก คือ แดเนียล ฟราตันโตนิโอ วัย 30 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการยามฝั่ง ส่วนอีก 2 รายยังไม่สามารถระบุชื่อได้
ตลอดคืนที่ผ่านมา หน่วยกู้ชีพได้ดำน้ำลงไปค้นหาร่างผู้สูญหายอีกราว 6-7 คนในทะเลรอบๆจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นท่าเรือที่คับคั่งที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี ขณะที่หน่วยกู้ภัยก็นำสุนัขดมกลิ่นเข้าไปช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจจะยังติดอยู่ใต้ซากหอบังคับการ
เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่าน่าจะมีพนักงานอีก 3 รายที่ติดอยู่ในลิฟต์ซึ่งหักโค่นลงไปในทะเล และนักประดาน้ำก็กำลังดำลงไปเพื่อเปิดลิฟต์นำร่างของพวกเขาออกมา หนังสือพิมพ์ Il Secolo XIX ซึ่งตีพิมพ์ที่เมืองเจนัว รายงาน
ทั้งนี้ ยอดผู้สูญหายยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เพราะขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่พนักงานบนหอบังคับการเปลี่ยนกะทำงาน
พนักงานบริษัท เมสซินา ไลน์ ในเมืองเจนัว ซึ่งเป็นเจ้าของเรือบรรทุกสินค้า จอลลี เนโร ที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อคืนนี้ยืนยันว่า “อุบัติเหตุเกิดขึ้นหลังจากที่เรือกำลังแล่นออกจากท่า มันพุ่งเข้าชนหอบังคับการ แต่ขณะนี้เรายังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และบังบอกไม่ได้ว่ามีผู้บาดเจ็บมากน้อยเท่าใด”
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเรือจอลลี เนโร เมื่อเวลาหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา (ราว 05.30 น.ตามเวลาในไทย) สร้างความตกตะลึงต่อชาวเมืองมะกะโรนีซึ่งยังไม่ลืมเลือนโศกนาฏกรรมเรือสำราญกอสตา กอนกอร์เดีย ซึ่งอับปางลงนอกชายฝั่งเกาะกิกโล เมื่อเดือนมกราคม ปี 2012 พร้อมชีวิตลูกเรือและผู้โดยสารอีก 32 คน
เรือจอลลี เนโร ถูกเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. (08.30 น.ตามเวลาในไทย) เพื่อให้การค้นหาผู้สูญหายเป็นไปอย่างสะดวก
เรือบรรทุกสินค้าซึ่งมีความยาวเกือบ 200 เมตร กว้าง 30 เมตร และมีระวางขับน้ำมหาศาลถึง 40,500 ตันลำนี้ อยู่ระหว่างเดินทางจากท่าเรือเมืองเจนัวเพื่อไปยังเมืองเนเปิลส์
