เอเอฟพี - "ฮิวแมน ไรต์ วอช" ออกมาระบุในวันนี้ (5 ส.ค.) ว่ากลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซีย ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน ได้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่นับวันจะมากขึ้นทุกที โดยมีการข่มขู่ ปล้นรถพยาบาล รวมถึงขโมยอุปกรณ์ในการรักษา
ยูเลีย กอร์บูโนวา เจ้าหน้าที่ของฮิวแมนไรต์วอช ผู้ทำวิจัยเกี่ยวกับยุโรปและเอเชียกลาง ระบุในคำแถลงว่า กลุ่มก่อความไม่สงบที่ฝักใฝ่รัสเซียได้เข้าโจมตีหน่วยพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่กำลังดูแลคนเหล่านั้นตกอยู่ในความเสี่ยง การกระทำที่ย่ำแย่และไม่สนใจผู้คนที่กำลังป่วยหรือได้รับบาดเจ็บที่อาจถึงแก่ความตายได้นั้น จำเป็นจะต้องหยุดลงทันที
องค์กรที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและมีสำนักงานอยู่ในนครนิวยอร์กแห่งนี้ระบุว่า ตนมีเอกสารที่บันทึกไว้ว่า กลุ่มก่อความไม่สงบเหล่านี้ได้ปล้นรถพยาบาลเพื่อนำไปขนส่งบรรดานักรบ ทั้งยังข่มขู่เจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินและยึดเอาอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งควรถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม
อย่างไรก็ตาม ฮิวแมน ไรต์ วอช ระบุว่า ไม่ได้มีเพียงแค่ฝ่ายกบฏเท่านั้นที่สร้างความเสียหายให้กับหน่วยบริการทางการแพทย์ เพราะมีเจ้าหน้าที่แพทย์อย่างน้อย 2 รายที่เสียชีวิตจากจรวดหรือกระสุนปืนครก ที่ดูเหมือนจะยิงมาจากตำแหน่งของฝ่ายรัฐบาลยูเครน ไปโดนโรงพยาบาล 5 แห่งซึ่งอยู่ในพื้นที่ควบคุมของฝ่ายกบฏ
คำแถลงระบุว่า กองกำลังฝ่ายกบฏได้ส่งนักรบมาประจำการอยู่ในโรงพยาบาลหลายแห่ง ทำให้โรงพยาบาลอาจกลายเป็นเป้าโจมตีได้ แถมยังยึดตึกคนไข้ของโรงพยาบาลอย่างน้อย 2 แห่งเอาไว้ เพื่อใช้ในการดูแลรักษากองกำลังฝ่ายกบฏที่ได้รับบาดเจ็บ
สหประชาชาติได้ประมาณการว่า มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,150 ราย และผู้บาดเจ็บอีกประมาณ 3,450 ราย จากการสู้รบอันดุเดือดที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา กำลังทำให้เขตศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งนี้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ด้านกาชาดระบุว่า ยูเครนกำลังตกอยู่ในสภาวะสงครามกลางเมือง ซึ่งการออกมาระบุเช่นนี้อาจทำให้หลายฝ่ายที่มีส่วนรับผิดชอบกับการสู้รบครั้งนี้ต้องถูกดำเนินคดีอาชญากรรมสงคราม
บรรดาพลเรือนคือผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากความรุนแรงของทั้งฝ่ายกองทัพยูเครนและฝ่ายกบฏ ที่ยิงอาวุธหนักเข้าใส่เขตที่อยู่อาศัย
ยูเอ็นบอกว่า มีพลเรือนมากกว่า 100,000 คน ที่ต้องหนีไปอยู่ในพื้นที่อื่นของยูเครน ขณะที่ทางรัสเซียก็ระบุว่า มีพลเรือนมากกว่า 500,000 คนที่ข้ามชายแดนเข้ารัสเซียเพื่อลี้ภัยสงครามไปหาที่พักพิง
บรรดาเมืองของฝ่ายกบฏที่ถูกปิดล้อม น้ำและไฟฟ้า รวมถึงเสบียงอาหารกำลังขาดแคลนอย่างหนัก ขณะที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในท้องถิ่นหลายแห่งได้เตือนภัยด้านมนุษยธรรมในบางพื้นที่
ขณะเดียวกันพลังงานเชื้อเพลิงต่างๆ ในบางพื้นที่ของฝ่ายกบฏก็ถูกใช้จนหมดแล้ว ซึ่งนั่นเท่ากับว่าการให้บริการทางการแพทย์ที่ทำงานกันจนเกินกำลังอยู่แล้ว จะต้องดิ้นรนกันมากขึ้นอีกในการช่วยพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ
การกล่าวหาของ "ฮิวแมน ไรต์ วอช" มาพร้อมกับความกังวลว่า การสู้รบตามท้องถนนจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกองทัพยูเครนได้กระชับวงล้อมเข้ามายังพื้นที่หลักของโดเน็ตสก์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายกบฏ หลังจากที่มีการรุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ ในช่วง 1 เดือนที่แล้ว
ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในท้องถิ่นระบุว่า เสียงยิงอาวุธหนักนั้นได้ยินไปทั่วเมืองตลอดทั้งคืนและมีกองกำลังฝ่ายกบฏได้รับบาดเจ็บ 8 รายจากแรงระเบิด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพยูเครนเคยลั่นวาจาไว้ว่าจะกำจัดกลุ่มก่อความไม่สงบเหล่านี้ให้หมดไปในอีกไม่นาน แต่กองกำลังฝ่ายกบฏก็ปักหลักกันอยู่ในใจกลางเมืองที่เป็นศูนย์รวมผู้คน พร้อมกับประกาศว่าจะขอสู้จนตัวตาย