รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ แสดงท่าทีไม่ให้ความสำคัญกับรัสเซีย โดยระบุว่าเป็นชาติที่ไม่เห็นจะทำอะไรขึ้นมาเลย พร้อมกันนั้นเขายังกล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร “ดิ อีโคโนมิสต์” ด้วยว่าชาติตะวันตกควรจะแสดงท่าทีแข็งกร้าวกับจีน ที่กำลังพยายามจะมีบทบาทมากขึ้นบนเวทีเศรษฐกิจโลก
โอบามานั้นพยายามปรับโฟกัสนโยบายด้านการต่างประเทศของสหรัฐฯ มาให้ความสำคัญกับเอเชีย ส่วนหนึ่งก็เพื่อตอบสนองต่อความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและการทหารของจีน แต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เรื่องนี้ก็ต้องโดนกลืนหายไป เมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤิตระหว่างประเทศในหลายๆ ประเทศ ซึ่งรวมถึงการที่รัสเซียสนับสนุนกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในยูเครน
รัสเซียมีฐานะเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติอันดับ 2 ของโลก ซึ่งบรรดาชาติยุโรปต่างก็ต้องพึ่งพาการส่งออกพลังงานของรัสเซียแทบทั้งสิ้น ทำให้การแสดงท่าทีต่อวิกฤติความรุนแรงในยูเครน ของบรรดาชาติยุโรปเหล่านี้กลายเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน
โอบามาได้พยายามพูดลดบทบาทความสำคัญของรัสเซียบนเวทีโลก ด้วยการสบประมาทประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ว่าการเป็นผู้นำที่คอยแต่จะสร้างปัญหาเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้น แม้ว่าเรื่องเหล่านั้นอาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่รัสเซียในระยะยาวก็ตาม
“ผมคิดว่ามันสำคัญมากที่จะต้องมองให้เห็นว่ารัสเซียเป็นพวกที่ไม่ได้ทำอะไรเลย บรรดาผู้อพยพไม่ได้แห่กันเข้าไปในรัสเซียเพื่อค้นหาโอกาสใหม่ๆ อายุขัยของชายชาวรัสเซียขณะนี้ก็เพียงแค่ประมาณ 60 ปี แถมจำนวนประชากรก็กำลังลดลง” โอบามากล่าวในการให้สัมภาษณ์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โอบามาได้บอกกับปูตินว่า เขาเชื่อว่ารัสเซียได้ละเมิดสนธิสัญญาว่าด้วยอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง ปี 1988 ที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อไม่ให้มีขีปนาวุธร่อนชนิดที่ยิงจากภาคพื้นดิน
เมื่อพูดถึงความท้าทายในระดับภูมิภาคของรัสเซีย โอบามาได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า ต้องทำให้แน่ใจว่ารัสเซียจะไม่ทำให้เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ต้องกลับมาเป็นประเด็นพูดคุยในนโยบายด้านการต่างประเทศอีก
ส่วนสถานการณ์ความตึงเครียดที่สหรัฐฯ มีต่อจีนนั้น โอบามาบอกว่ายังอยู่ในระดับที่ “ควบคุมได้”
ทั้งนี้ จีนกำลังประสบปัญหาข้อพิพาทกับประเทศเพื่อนบ้าน เกี่ยวกับพื้นที่ซึ่งอุดมไปด้วยน้ำมันในทะเลจีนใต้ อีกทั้งยังทะเลาะกับชาติตะวันตกอยู่บ่อยครั้งสำหรับเรื่องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา
โอบามาบอกกับดิ อีโคโนมิสต์ว่า สิ่งหนึ่งที่เขาจะพูดเกี่ยวกับจีนก็คือ ชาติต่างๆ จะต้องแสดงท่าทีแข็งกร้าวกับจีน เพราะจีนจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ จนกว่าจะเจอการแข็งข้อต่อต้าน
เขาระบุว่า จีนไม่ใช่พวกที่เห็นอกเห็นใจใคร และก็ไม่ได้สนใจในสิ่งที่เป็นนามธรรม ดังนั้นการเรียกร้องแบบปกติให้ยึดมั่นตามหลักสากลจึงยังไม่เพียงพอ
โอบามา เชื่อว่าความตึงเครียดด้านการค้าจะลดลง เมื่อจีนปรับเปลี่ยนจากการเป็นผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมต้นทุนต่ำรายใหญ่ของโลก และบรรดาบริษัทจีนหันมาผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องการการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา
โอบามาเสนอว่าจะต้องมีกลไกที่ทั้งสามารถแสดงท่าทีแข็งกร้าวในเวลาที่จีนละเมิดบรรทัดฐานตามหลักสากล แต่ก็ต้องแสดงให้จีนได้เห็นถึงผลประโยชน์ที่จะได้ในระยะยาวถ้าหากทำตามบรรทัดฐานสากลดังกล่าว