เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปิดบวกวานนี้ (4 ส.ค.) จากสถานการณ์ความยุ่งเหยิงในลิเบียช่วงสุดสัปดาห์ เช่นเดียวกับวอลล์สตรีทที่ได้ปัจจัยหนุนผลประกอบการบริษัทยักษ์ใหญ่ ผิดกับทองคำที่ขยับลง ด้วยอุปสงค์สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำอ่อนแอ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 41 เซ็นต์ ปิดที่ 98.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 57 เซ็นต์ ปิดที่ 105.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันได้ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ความรุนแรงในลิเบีย ซึ่งเหตุปะทะในกรุงตริโปลีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 22 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมเป็นต้นมา ขยับขึ้นเป็น 124 ราย บาดเจ็บมากกว่า 500 คน ด้วยนักวิเคราะห์มองว่าเหตุความรุนแรงจะกัดเซาะความพยายามคืนการผลิตน้ำมันในชาติแอฟริกาเหนือแห่งนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันจันทร์ (4) ปิดบวกเล็กน้อย ได้แรงหนุนจากงานผลประกอบการของเบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ แม้กระแสความคึกคักจะถูกกัดเซาะบางส่วนจากกลุ่มสาธารณูปโภคก็ตาม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 78.06 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,571.43 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 14.03 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,939.18 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 31.25 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,383.89 จุด
ส่วนราคาทองคำวานนี้ (4) ปิดลบพอสมควร แตะใกล้ๆระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ นักวิเคราะห์ประเมินอัตราการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อผลกระทบต่ออุปสงค์โลหะมีค่าชนิดนี้ที่ถูกมองในฐานะสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,287.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์