xs
xsm
sm
md
lg

ภาพรุนแรง: อิสลาเอลประกาศ “ทหาร IDFที่สูญหาย” เสียชีวิตในกาซา หลังเนทันยาฮูกร้าว “ฮามาสต้องชดใช้อย่างสาสม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/เอเอฟพี – ร้อยโท ฮาดาร์ โกลดิน ( Hadar Goldin) วัย 23 ปี ที่ก่อนหน้านี้คาดว่าถุกกลุ่มฮามาสจับตัวไป แท้จริงแล้วเสียชีวิตในการต่อสู้ที่กาซาโดนกลุ่มฮามาสเข้าโจมตีที่ตั้งหน่วยทหารของโกลดิน โฆษกกองกำลัง IDFของอิสราเอลแถลงยืนยันในเช้าวันเสาร์(2) และล่าสุดในเช้าวันอาทิตย์(3)มียอดเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์เพิ่มอีก 10 คนหลังโรงเรียนยูเอ็นในเมืองราฟาห์ที่ถูกใช้เป็นศูนย์ผู้อพยพร่วม 3,000 คนโดนโจมตี

ร้อยโท ฮาดาร์ โกลดิน ( Hadar Goldin) วัย 23 ปี ทหาร IDF ได้รับการประกาศการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการในเช้าตรู่วันเสาร์(2)โดยโฆษกกองกำลัง IDF พร้อมทั้งระบุว่า โกลดินทำหน้าที่ทำลายอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสในเมืองราฟาห์ และเขาเสียชีวิตในขณะที่ถูกกลุ่มฮามาสบุกโจมตีหน่วยที่ตั้ง ขัดแย้งกับความเชื่อก่อนหน้านี้ที่คาดว่า ร้อยโทวัย 23ปีผู้นี้จะถูกกลุ่มก่อการร้ายลักพาตัวหายเข้าไปภายในเครือข่ายอุโมงค์ของฮามาส และเพื่อนทหารจากหน่วยตามเข้าไปช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ

บีบีซีรายงานในวันนี้(3)ว่า การหายตัวไปของโกลดินเป็นเหตุให้สัญญาหยุดยิง 72ชม.ต้องพังครืนไม่เป็นท่า

และหลังจากการประกาศข่าวการเสียชีวิต เป็นผลให้ร้อยตรีโกลดินได้รับการเลื่อนยศเป็นร้อยโททันทีตามธรรมเนียมปฎิบัติของ IDF และมีรายงานว่าในช่วงการประกาศข่าวการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ สมาชิกครอบครัวของโกลดิน รวมไปถึงเอ็ดนา (Edna)คู่หมั้นของโกลดินรวมตัวอยู่นอกบ้านของตระกูลโกลดินในเมืองเคฟาห์ ซาบา ( Kfar Saba )ตอนกลางอิสราเอล

ทั้งนี้ข้อสรุปถึงการเสียชีวิตของโกลดินนั้นเกิดจากหลักฐานดีเอ็นเอที่พิสูจน์ให้กองทัพอิสราเอลเชื่อว่า โกลดินได้เสียชีวิตไปแล้ว

และเพิ่งมีการเปิดเผยจากเดอะ ไทม์สว่า โกลดินนั้นเติบโตในเมืองเคมบริดจ์ อังกฤษ ในช่วงเวลาซิมฮา (Simha)บิดาของเขาเป็นนักวิชาการอยู่ที่อังกฤษ และในขณะนี้บิดาของโกลดินกำลังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันยิวศึกษาในกรุงเทลอาวีฟ

การประกาศข่าวการเสียชีวิตของโกลดินมีขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสลาเอล ประกาศเดินหน้าทำสงครามกับกลุ่มฮามาส และกองทัพอิสราเอลจะให้บทเรียนราคาแพงกับกลุ่มก่อการร้ายที่กล้าเป็นศัตรูกับอิสราเอล และถึงแม้ในวันศุกร์(1)จะเห็นบางส่วนของกองกำลังIDF ถอนตัวออกจากกาซาหลังมีข่าวแพร่มาว่า เครือข่ายอุโมงค์ลับของฮามาสถูกทำลายจนเกือบหมด แต่เนทันยาฮูยังย้ำจุดยืนว่า กองทัพอิสราเอลจะไม่มีวันถอยหลัง

“กองทัพอิสราเอลพร้อมที่จะเดินหน้าปฎิบัติการต่อไปเพื่อเถียรภาพของอิสราเอล คืนความสงบให้กับประเทศ และนี่เป็นภารกิจที่เราจะทำ” เนทันยาฮูแถลง และเสริมว่า “เราจะยังคงออกโจมตีจนกว่าเราจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานมากเพียงใดหรือต้องใช้กำลังทหารมากเพียงใด ซึ่งเป็นสิ่งที่ฮามาสต้องเข้าใจว่าจะต้องจ่ายราคาแพงตราบเท่าที่กลุ่มก่อการร้ายปาเลสไตน์ยังเดินหน้ายิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล”

เมื่อวานนี้(2) ทั่วกาซาผู้คนต่างจับกลุ่มรวมตัวทำงานแข่งกับเวลาขุดดินสร้างสุสานง่ายๆ ในขณะที่ห่างไปไม่เท่าไหร่ มีกองศพชาวปาเลสไตน์ที่มีเลือดท่วมกองสุมอยู่ในห้องเย็นเก็บผักขนาดใหญ่ที่ถูกดัดแปลงใช้เป็นห้องเย็นเก็บศพชั่วคราว

มีรายงานว่ารถถังและทหารIDF บางส่วนถอนตัวออกจากกาซาในวันเสาร์(2)ในขณะที่แหล่งข่าวทางทหารของอิสราเอลเปิดเผยกับสื่ออังกฤษว่า เป็นเพราะIDFบรรลุเป้าหมายในการเข้าทำลายอุโมงค์ของฮามาสเกือบหมด แต่รอยเตอร์รายงานในวันนี้(3)ว่า มีหน่วยแนวหน้าหน้าของIDFบางส่วนได้ถูกย้ายไปปฎิบัติหน้าที่ประจำพรมแดนด้านอื่นของอิสราเอล แต่ทว่าปฎิบัติการภาคพื้นดินของIDFในกาซายังเดินหน้าต่อไปไม่หยุด

ทั้งนี้ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดนับตั้งแต่เริ่มปฎิบัติการ Protective Edge มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วทั้งหมดเกือบ 1,700 ราย รวมถึงเด็กร่วม 300 คนที่ต้องจบชีวิต นอกจากนี้อิสราเอลประกาศตัวเลขรวมการเสียชีวิตทหาร IDF ทั้งหมด 66 คน และพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องในอิสราเอลอีก 3 คน

ซึ่งการโจมตีล่าสุดในเช้าวันนี้(3) อัชราฟ อัล-คูดรา (Ashraf al-Qudra )โฆษกหน่วยแพทย์ฉุกเฉินปาเลสไตน์รายงานกับเอเอฟพีว่า มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 10 คน และบาดเจ็บร่วม 30 คนในการโจมตีในวันที่ 27ของปฏิบัติการProtective Edge ที่โรงเรียนของยูเอ็นซึ่งถูกใช้เป็นศูนย์อพยพชาวปาเลสไตน์ในเมืองราฟาห์ ไม่ห่างจากพรมแดนติดอียิปต์ โดยเจ้าหน้าที่ของยูเอ็น หน่วยงานUNRWA เผยว่า “เชื่อมั่นว่าเป็นการโจมตีทางอากาศที่บริเวณประตูของโรงเรียนแห่งนี้ และมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็ยจำนวนหนึ่งอยู่ด้านนอกและด้านในของศูนย์อพยพ”

ด้านฟิลลิป แฮมมอนด์(Philip Hammond) รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของอังกฤษได้ให้สัมภาษณ์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ในสถานการณ์กาซาว่า “ทนไม่ได้” และร้องให้มีการยุติการยิงจากทั้งสองฝ่ายในทันที

ในขณะที่ยูเอ็นออกโรงเตือนถึงวิกฤตทางด้านการแพทย์ในกาซา ที่พบว่าสถานพยาบาลอย่างน้อยครึ่งหนึ่งถูกปิดลง รวมไปถึงปัญหาด้านโรคติดต่อทางน้ำและโรคระบาดทางการสัมผัสที่จะตามมาเนื่องจากความขาดแคลนน้ำสะอาดและปัญหาสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน

คำเตือน:มีภาพรุนแรงประกอบ

















กำลังโหลดความคิดเห็น