เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - กองทัพอิสราเอลประกาศเสริมกำลังปฎิบัติการProtective Edge ในการโจมตีกาซาที่ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตวันละร้อยคน ด้วยการเคลื่อนกำลังทหารกองหนุนเสริมอีก 16,000 นายล่าสุดเข้าสู่กาซา ก่อนหน้านี้เครื่องบินโจมตีอิสราเอลได้โปรยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อจากฟ้าเหนือกาซา เตือนให้ชาวปาเลสไตน์เร่งอพยพออกจากบ้านเรือน และห้ามข้องเกี่ยวกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส พร้อมให้รายละเอียดเบอร์โทรศัพท์และอีเมลติดต่อกลับเพื่อรายงานหากพบฐานยิงขีปนาวุธ และยอดเสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ล่าสุดในเช้านี้(31)มี 1,363 คน จากการที่อิสราเอลส่งเครื่องบินรบโจมตีมัสยิดแห่งหนึ่งใกล้กับโรงเรียนค่ายผู้ลี้ภัยยูเอ็นในจาบาเลีย ในขณะทหาร IDF ของอิสราเอลเสียชีวิต 56 คนนับตั้งแต่การปฎิบัติการในวันแรกเมื่อ 8 กรกฎาคม
“กองทัพได้สั่งการเคลื่อนทหารกองหนุนจำนวน 16,000 นายเข้าสู่ฉนวนกาซาเพื่อให้ทหาร IDF ภาคพื้นที่ปฎิบัติการอยู่ในขณะนี้ได้พัก ซึ่งทำให้จำนวนของทหารกองหนุนในขณะนี้มีทั้งสิ้น 86,000 นาย” โฆษกหญิงของกองทัพอิสราเอลแถลง
คณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอิสราเอลได้ประชุมหารือราว 5 ชม.ในวันพุธ(30) ตัดสินใจในการโจมตีฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายเป้าหมายของประเทศ รวมไปถึงปฎิบัติการทหารอื่นๆที่จะทำลายเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสและเครือข่ายใช้เป็นเส้นทางลอบเข้าอิสราเอลจากกาซาเพื่อโจมตีพลเรือนอิสราเอล สถานีวิทยุของรัฐบาลอิสราเอลรายงาน
ทั้งนี้ได้มีการรายงานการแถลงของพลตรีซามี เทิร์กแมน (Sami Turgeman) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพอิสราเอลรับผิดชอบกาซาว่า “การทำลายเครือข่ายอุโมงค์ของกลุ่มติดอาวุธนั้นสามารถเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วันนี้” เทิร์กแมนกล่าว
ในวันพุธ(30)มีชาวปาเลสไตน์จำนวนมากกว่า 100 คนต้องจบชีวิตจากการโจมตีของกองทัพอิสราเอลที่ตลาด และโรงเรียนของยูเอ็นที่ใช้เป็นศูนย์อพยพของชาวปาเลสไตน์ที่หนีภัยสงคราม มีประชาชนกาซาอย่างน้อย 17 รายเสียชีวิตจากเหตุโจมตีตลาดในเชไจยา ใกล้กับเมืองกาซา ในระหว่างที่อิสราเอลประกาศหยุดยิงเพื่อมรุษยธรรมในพื้นที่ส่วนอื่นของฉนวนกาซา
การโจมตีตลาดเชไจยามีขึ้นในอีกไม่กี่ชม.หลังจากกองทัพอิสราเอลได้ยิงถล่มโรงเรียนของยูเอ็นในค่ายผู้อพยพจาบาเลียซึ่งใช้เป็นที่อยู่ของชาวปาเลสไตน์ร่วม 3,300 คน และสังหารชาวปาเลสไตน์ไปอีก 16 คน และมีผู้บาดเจ็บ 90 คน สร้างความโกรธเให้กับองค์การสหประชาชาติเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันในวันพุธ(30) กลุ่มฮามาสแถลงว่า ได้ยิงขีปนาวุธไปที่กรุงเทลอาวีฟ และแอชคีลอน เมืองทางใต้ของอิสราเอลในการตอบโต้กับการโจมตีตลาดไชเจยา และโรงเรียนยูเอ็น ด้านกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า “ขีปนาวุธของกลุ่มฮามาสตกในพื้นที่โล่งในกรุงเทลอาวีฟ” และขีปนาวุธอีก 2 ลูกถูกสกัดไว้ได้ที่แอชคีลอน และยังสรุปตัวเลขว่า มีขีปนาวุธทั้งหมด 81 ลูกตกในฝั่งอิสราเอลเมื่อวานนี้(30) ในขณะที่อีก 9 ลูกถูกสกัดไว้ได้โดยระบบต่อต้านขีปนาวุธ “โดม” ของอิสราเอล ส่วนกองทัพอิสราเอลยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมาย 88 แห่งในกาซา
นอกจากนี้เมื่อวานนี้(30) NBC Newsสื่อสหรัฐฯ ยังรายงานว่า เครื่องบินรบอิสราเอลได้โปรยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อจากฟ้าเหนือกาซา เตือนให้ชาวปาเลสไตน์เร่งอพยพออกจากบ้านเรือน และห้ามข้องเกี่ยวกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส พร้อมให้รายละเอียดเบอร์โทรศัพท์และอีเมลติดต่อกลับเพื่อรายงานหากพบฐานยิงขีปนาวุธ
และในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี(31) เครื่องบินรบกองทัพอิสราเอลยังโจมตีมัสยิดแห่งหนึ่งใกล้กับที่ตั้งโรงเรียนของยูเอ็นในจาบาเลีย ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 15 คน ทั้งนี้กู้ภัยฉุกเฉินกาซาเปิดเผยว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตเพิ่มเติมในวันนี้(31)จำนวน 2 คนเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ส่งผลทำให้ยอดเสียชีวิตชาวปาเลสไตน์จากปฎิบัติการ 23 วันของอิสราเอลอยู่ที่ 1,363 คน ในขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลประกาศตัวเลขทหาร IDF เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คนในกาซา ส่งผลให้มีตัวเลขทหารเสียชีวิตทั้งหมดนับตั้งแต่เริ่มปฎิบัติการตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมอยู่ที่ 56 คน
และถึงจะมีการเสียชีวิตของพลเรือนปาเลสไตน์เป็นจำนวนมาก แต่ไม่ปรากฎว่ารัฐยิวต้องการยุติการโจมตีแต่อย่างใด และจะมีการขยายปฎิบัติการทหารโจมตีฮามาสและองค์กรก่อการร้ายทั้งหมดออกไป ซึ่งแหล่งข่าวระดับสูงของอิสราเอลให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Haaretz ที่มีข่าวว่ามีตัวแทนจากอิสราเอล 2 คนเดินทางไปกรุงไคโรเพื่อถกความเป็นไปได้ในการยุติสงครามกับเจ้าหน้าที่ออียิปต์ ที่ไคโรถือเป็นคนกลางสำคัญในการเจรจาระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล
