เอเจนซีส์/เอเอฟพี/เอพี – หลังจากที่จำนวนพลเรือนชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตเพิ่มสูงกว่า 1,000 คน ทำให้ผู้นำทั่วโลกต่างเรียกร้องให้มีการหยุดยิงที่แท้จริง เป็นผลให้เมื่อคืนดึกวานนี้ (26) อิสราเอลตัดสินใจขยายเวลาหยุดยิงต่อ 24 ชม. เพื่อมนุษยธรรม แต่โฆษกกลุ่มฮามาสออกมาปฏิเสธ และเริ่มระดมยิงขีปนาวุธไปยังกรุงเทลอาวีฟ โดยในเช้ามืดวันนี้ (27) ฮามาสระดมยิงขีปนาวุธขนาดใหญ่ใส่ทางใต้ของอิสราเอล
เอพีรายงาน ในเช้ามืดวันอาทิตย์ (27) กลุ่มฮามาสยิงขีปนาวุธ 7 ลูก ใส่ทางใต้ของอิสราเอล 2 ลูก ถูกระบบโดมต่อต้านขีปนาวุธทางอากาศป้องกันไว้ได้ ส่วนอีก 5 ลูกตกลงในพื้นที่เปิดโล่ง ปฏิเสธการขยายเวลาหยุดยิง 24 ชม. ของอิสราเอล
ทั้งนี้ คณะ ครม.อิสราเอลตัดสินใจในคืนดึกวันเสาร์ (26) กำหนดให้การหยุดยิงโดยฝ่ายอิสราเอลสิ้นสุดลงในเวลา 24.00 น. คืนวันอาทิตย์ (27) “ตามข้อเสนอแนะขององค์การสหประชาชาติ ทางคณะ ครม.อิสราเอล ตัดสินใจอนุมัติขยายเวลาการหยุดยิงเพื่อภารกิจมนุษยธรรมไปจนถึงเที่ยงคืนวันอาทิตย์ (27)” แหล่งข่าวอิสราเอลกล่าวผ่านแถลงการณ์กับรอยเตอร์
แต่อย่างไรก็ตาม อิสราเอลประกาศว่าจะตอบโต้หากกลุ่มฮามาสยิงขีปนาวุธจากกาซาเข้าโจมตีพลเรือนอิสราเอล โดยในแถลงการณ์มีการเสริมว่า “ทหาร IDF จะยังคงเดินหน้าปฏิบัติการเข้าทำลายอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสในกาซาในวันเสาร์ (26) ถึงแม้ว่าการหยุดยิงจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 8.00 น.” เดอะเยรูซาเลมโพสต์รายงาน
ในขณะที่ฮามาสปฏิเสธการต่ออายุสัญญาหยุดยิง 24 ชม. ของอิสราเอล โดยโฆษกฮามาสแถลงว่า “สัญญาการหยุดยิงเพื่อมนุษยชนจะไม่เกิดขึ้นตราบใดก็ตามที่รถถังกองทัพอิสราเอลยังไม่ได้รับคำสั่งถอนออกจากฉนวนกาซา และประชาชนปาเลสไตน์ยังไม่สามารถเดินทางกลับไปยังบ้านเรือนพวกเขาได้ ตลอดจนรถพยาบาลฉุกเฉินยังไม่สามารถวิ่งได้อย่างปลอดภัยและอิสระในกาซา”
สภาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอลมีกำหนดประชุมประเมินสถานการณ์ในเช้าวันนี้ (27)
จากรายงานของสื่อพบว่า ยอดเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์จากปฎิบัติการทหารอิสราเอล “Protective Edge” ในวันที่ 19 ของปฏิบัติการมีถึง 1,040 คน รวมถึงเด็กเสียชีวิตไปราว 192 คน กระทรวงสาธารณสุขกาซาให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี ในขณะที่กองทัพอิสราเอล เปิดเผยว่า ตัวเลขทหารยิวเสียชีวิตล่าสุดอยูที่ 43 คน ในช่วงเวลา 20 วันของปฏิบัติการทหาร บารัค เรฟาเอล เดกอร์เคอร์ (Barak Refael Degorker) ทหาร IDF วัย 27 ปี เสียชีวิตเมื่อวานนี้ (26) ในขณะปฏิบัติหน้าที่ในกาซา ถือเป็นรายที่ 43 ที่เสียชีวิต
ทั้งนี้ ในวันเสาร์ (26) กลุ่มฮามาสเริ่มต้นระดมยิงอิสราเอลด้วยขีปนาวุธทันที่ข้อตกลงหยุดยิงเดิม 12 ชม.สิ้นสุดลงในเวลา 20.00 น ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ (26) และไม่กี่นาทีหลังจากที่อิสราเอลประกาศขยายเวลาหยุดยิงออกไปอีกจนถึงเที่ยงคืนวันอาทิตย์ (27)
ในขณะเดียวกัน กองทหาร IDF ออกประกาศห้ามชาวปาเลสไตน์เดินทางกลับไปยังบ้านเรือนในกาซาถึงแม้จะอยู่ในช่วงสัญญาการหยุดยิง 12 ชม. “IDF จะยังคงตอบโต้หากในช่วงเวลานี้ยังมีการใช้อาวุธโจมตีกองกำลัง หรือพลเรือนยิว” โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวผ่านแถลงการณ์ และเสริมต่อว่า ทางกองทัพจะยังคงออกปฎิบัติทำลายอุโมงค์ในกาซาที่ขุดโดยกลุ่มฮามาสในช่วงเวลาสัญญาหยุดยิงนี้ อย่างไรก็ตาม NBC สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ไม่มีรายงานความเสียหายหลังการโจมตีของฮามาส และกองทัพอิสราเอลไม่ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ในการยิงขีปนาวุธของกลุ่มฮามาสในวันเสาร์ (26)
RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้ (26) ว่า ถึงแม้จะมีการประกาศห้ามจาก IDF ไม่ให้เดินทางกลับเข้าบ้านเรือน แต่พบว่ามีประชาชนชาวปาเลสไตน์เป็นจำนวนมากเดินทางกลับเข้าบ้าน โดยประชาชนในเมือง Beit Hanoun ทางเหนือของกาซา ต่างต้องพบกับซากปรักหักพังเป็นจำนวนมากเมื่อพวกเขาเดินทางกลับบ้าน “ไม่มีอะไรเหลืออยู่ ทุกสิ่งที่ดิฉันเคยมีได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว” หญิงปาเลสไตน์คนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับเอพี และเอเอฟพี รายงานว่า สถานการณ์นี้แทยไม่ต่างจากเมืองอื่นๆ ในกาซา เช่น เชไจยา (Shejaiya)
และในวันเสาร์ (26) มีการพบศพอย่างน้อย 147 รายในสภาพเน่าเปื่อยถูกฝังอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังในกาซา อัชราฟ อัล-คิดดรา (Ashraf al-Kidra) เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์แถลง
และเสริมต่อว่า ใกล้กับ Bani Suheila มีสมาชิกครอบครัวร่วม 20 ชีวิต รวมถึงเด็ก 10 คน ถูกรถถังอิสราเอลสังหารในครั้งเดียวกันในขณะที่กองกำลัง IDF ยิงถล่มตึกแห่งหนึ่งในในเมืองข่านยูนิส (Khan Younis) ไม่กี่นาทีก่อนที่จะมีการเริ่มต้นหยุดยิง และมีพิธีศพของครอบครัวนี้ในวันเสาร์ (26) ซึ่งชาวปาเลสไตน์ที่เข้าร่วมงานศพหลายร้อยคนต่างตะโกนว่า “มีเพียงแต่พระเจ้า!!!!” ในขณะที่พวกเขาแบกร่างผู้เสียชีวิตที่ห่อด้วยผ้าขาว
ในช่วงเวลาการหยุดยิง IDF ประสบความสำเร็จในการทำลายอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสในกาซาได้อย่างน้อย 4 แห่ง
