เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มเอ็นจีโอที่เอียงข้างฝ่ายกบฏซีเรียเผยในวันนี้ (31 ก.ค.) ว่าการสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างชาวเคิร์ดในซีเรียกับกองกำลังของ "รัฐอิสลาม" ได้ทำให้ทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตรวมกันเกือบ 50 ราย โดยทางฝ่ายของชาวเคิร์ดสามารถยึดครองพื้นที่ของอีกฝ่ายได้หลายจุด
กลุ่มเอ็นจีโอ "ซีเรียน ออปเซอร์เวโทรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์" ยังได้รายงานการสู้รบในพื้นที่ทางตะวันออกของซีเรียระหว่างฝ่ายกองกำลังของ "รัฐอิสลาม" และพวกชนเผ่าที่เป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ โดยที่สมาชิกของชนเผ่าดังกล่าวกำลังทวีตข้อความเกี่ยวกับ "การลุกฮือขึ้นต่อต้าน"
กลุ่มเอ็นจีโอกลุ่มนี้ ระบุว่า การสู้รบเมื่อวันพุธ (30 ก.ค.) ในเขต ไอน์ อัล-อาหรับ (โคเบน ในภาษาของชาวเคิร์ด) ได้ทำให้ฝ่ายกองกำลังปกป้องชาวเคิร์ด (วายพีจี) เสียชีวิต 14 ราย ขณะที่ฝ่ายนักรบญิฮัดเสียชีวิต 35 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีหลายสิบราย
หน่วยงานเอ็นจีโอที่มีสำนักงานอยู่ในอังกฤษ และอ้างว่ามีเครือข่ายผู้ให้ข้อมูลกระจายอยู่ในซีเรีย ระบุว่า สถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ ไอน์ อัล-อาหรับ ที่อยู่ในจังหวัดอเล็ปโปทางตอนเหนือ ซึ่งติดกับชายแดนตุรกี ตอนนี้ "สงบ" ลงแล้ว โดยทางฝ่ายนักรบชาวเคิร์ดได้ยึดพื้นที่เนินเขาหลายจุด ที่พวกนักรบญิฮัดของ "รัฐอิสลาม" เคยใช้เป็นที่มั่น
ก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคม มีนักรบชาวเคิร์ดหลายร้อยคนได้ข้ามชายแดน ตุรกี-ซีเรีย ไปยังพื้นที่ ไอน์ อัล-อาหรับ เพื่อร่วมการสู้รบต่อต้าน "รัฐอิสลาม"
รายงานระบุอีกว่า อีกด้านหนึ่ง ที่จังหวัดเดียร์เอซซอร์ทางตะวันออกของซีเรีย ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยบรรดานักรบญิฮัด ปรากฏว่าชนเผ่าไซตัตก็ได้สู้รบกับกองกำลังของ "รัฐอิสลาม" ด้วยเช่นกัน โดยการต่อสู้ได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ทาง "รัฐอิสลาม" ได้ควบคุมตัวสมาชิกของชนเผ่าไป 3 คน ซึ่งถือเป็นการ "ละเมิดข้อตกลง" ระหว่างทั้งสองฝ่าย ที่ตกลงกันไว้ว่าฝ่ายชนเผ่าจะไม่ต่อต้าน แลกเปลี่ยนกับการที่ฝ่าย "รัฐอิสลาม" จะต้องไม่ข่มเหงหรือทำร้ายสมาชิกของชนเผ่า
สมาชิกของชนเผ่าไซตัตรายหนึ่งที่เป็นพวกสุหนี่ ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ ระบุว่า ไซตัตได้ลุกขึ้นต่อต้าน "รัฐอิสลาม" เรียบร้อยแล้ว ขณะที่รายงานของผู้สังเกตการณ์ระบุว่า มีนักรบญิอัดถูกสังหาร 5 ราย จากการสู้รบครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชาวเบลเยียม
ทั้งนี้ ชนเผ่านี้เป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ ที่กระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ 3 หมู่บ้าน ได้แก่ อาบู ฮามัม , คาชคิเยห์ , กรานิจ
"รัฐอิสลาม" ได้ขับไล่ฝ่ายตรงข้ามออกจากพื้นที่เดียร์เอซซอร์ที่อุดมไปด้วยน้ำมัน ตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ของเดือนกรกฎาคม ด้วยความฮึกเหิมหลังจากที่บุกยึดพื้นที่ในอิรักแบบสายฟ้าแลบเมื่อเดือนที่แล้ว
บรรดากบฏซีเรียและพวกนักเคลื่อนไหว ระบุว่า กองกำลังของ "รัฐอิสลาม" มีศักยภาพเพิ่มขึ้น หลังจากที่ยึดเอาอาวุธหนักจากกองทัพอิรักที่หลบหนีการรุกโจมตี โดยกองกำลังของ "รัฐอิสลาม" ได้สู้รบกับฝ่ายกบฏซีเรียที่มีอาวุธด้อยคุณภาพ มาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
สงครามซีเรียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 170,000 คน ภายในเวลา 3 ปี ได้เริ่มขึ้นจากการต่อต้านแบบสันติวิธี ต่อประธานาธิบดี บาซาร์ อัล-อัซซาด แต่แล้วก็กลับกลายเป็นสงครามที่ซับซ้อน หลังจากที่ฝ่ายรัฐบาลทำการปราบปรามอย่างรุนแรงต่อกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วย