สหรัฐฯ ออกโรงประณามเหตุโจมตี “ร.ร.ยูเอ็น” ในกาซา แต่ยังเดินหน้า “ขายอาวุธ” ให้อิสราเอล

เอเอฟพี - สหรัฐฯ แถลงยืนยันวานนี้ (30 ก.ค.) ว่า ได้จัดหาอาวุธยุทธภัณฑ์ให้อิสราเอลเพิ่ม เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากวอชิงตันออกมาขึ้นเสียงประณาม การที่รัฐยิวเปิดฉากโจมตีโรงเรียนขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในกาซา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทำเนียบขาวและกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะออกมากล่าวตำหนิ เหตุยิงถล่มโรงเรียนที่บริหารงานโดยยูเอ็น ในค่ายผู้ลี้ภัยจาบาลิยา ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา จนทำให้มีประชาชนชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารไปอย่างน้อย 16 ราย แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดออกมากล่าวโทษอิสราเอล ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรอันเหนียวแน่นของแดนอินทรี

มารี ฮาร์ฟ โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า “เป็นที่ชัดเจนว่า การสังหารคนบริสุทธิ์ที่แสวงหาที่พักพิงในสถานที่ของยูเอ็นเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล” โดยนับเป็นการกล่าวแสดงความคิดเห็นครั้งรุนแรงที่สุดของสหรัฐฯ ตั้งแต่เกิดการสู้รบในฉนวนกาซามาแล้ว 23 วัน

“ชาวปาเลสไตน์ที่เข้ามาลี้ภัยในโรงเรียนเหล่านี้ ไม่ควรกลายเป็นเป้ายิง พวกเขาไม่ควรตกเป็นเป้าโจมตี”

สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) แถลงว่า กองกำลังของอิสราเอลได้โจมตีโรงเรียน ที่มีชาวกาซาพักพิงอยู่ราว 3,300 คน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีการการกล่าวโต้ตอบกันด้วยถ้อยคำรุนแรงผ่านสื่อ โดย ฮาร์ฟเน้นย้ำว่า “เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าฝ่ายใดระดมยิงโรงเรียนนี้ เราจำเป็นต้องสืบหาข้อเท็จจริงทั้งหมด”

เบอร์นาแดต มีฮัน โฆษกของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ก็ออกมากล่าวประณาม “ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในการซ่อนอาวุธไว้ตามอาคารสถานที่ขององค์การสหประชาชาติในกาซา” พร้อมทั้งกล่าวเตือนว่า กำลังมีความวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า ชาวปาเลสไตน์หลายพันคน ที่อิสราเอลประกาศเตือนให้ออกจากบ้านก่อนถูกจู่โจม จะไม่มีที่อื่นให้หลบภัย ในฉนวนกาซาที่ถูกอิสราเอลปิดล้อม

*** อาวุธยุทธภัณฑ์ใหม่สำหรับอิสราเอล ***

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงยืนยันว่า เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม กองทัพอิสราเอลได้ขอสั่งซื้อเครื่องกระสุนเพื่อทดแทนส่วนในคลังแสงที่กำลังร่อยหรอ จากนั้น 3 วันต่อมา เพนตากอนก็อนุมัติการขายทันที

พล.ร.ต. จอหร์น เคอร์บี โฆษกของกระทรวงกลาโหมวอชิงตันระบุในคำแถลงว่า “สหรัฐฯ รับผิดชอบต่อความมั่นคงของอิสราเอล และการที่สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลืออิสราเอลในการพัฒนา และรักษาศักยภาพในการป้องกันตนให้แข็งแกร่ง และมีความพร้อมนั้นเป็นสิ่งจำเป็นต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เอง”

สหรัฐฯ “ขายอาวุธอาวุธยุทธภัณฑ์เพื่อวัตถุประสงค์เหล่านั้น”

หน่วยงานที่ส่งคำขอสั่งซื้อยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ สองครั้ง คือคลังแสงแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอิสราเอล ซึ่งแทบไม่เป็นที่รู้จัก โดยกองทัพสหรัฐฯ จะเป็นผู้จัดหาอาวุธยุทธภัณฑ์ให้คลังแสงแห่งนี้ ให้รัฐยิวไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ทั้งนี้ มีการประมาณการว่า คลังแสงอาวุธสงครามสำรองของอิสราเอลมีมูลค่าราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.2 หมื่นล้านบาท)

การที่สหรัฐฯ อนุมัติการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์แก่อิสราเอล อาจจุดชนวนให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ในเวลาที่วอชิงตันกำลังแสดงความกังวลขึ้น ที่นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการทหารเมือวันที่ 8 กรกฎาคม ก็มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปกว่า 1,300 คน ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน

เคอร์บีกล่าวว่า ชัค เฮเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลว่า วอชิงตันกำลังกังวล ว่าสถานการณ์การสู้รบที่กำลังลุกลามบานปลายจะส่งผลกระทบร้ายแรงตามมา เป็นต้นว่า “สถานการณ์ด้านมนุษยธรรม (ในกาซา) ที่กำลังทวีความเลวร้าย” พร้อมกันนี้ เขาได้เรียกร้องให้มีการทำข้อตกลงหยุดยิง และยุติความเป็นศัตรูต่อกัน

นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องอีกครั้งให้ เหล่าผู้ปกครองของกาซา ที่เป็นสมาชิกขบวนการฮามาส และกลุ่มก่อการร้ายทั้งหมดปลดอาวุธ”

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับชาติพันธมิตรอันเหนียวแน่นอย่างสหรัฐฯ ได้ตกต่ำลง หลังจาก เคร์รี กลับมาจากเดินทางไปทำภารกิจในตะวันออกกลาง เพื่อผลักดันการทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส

เจ้าหน้าที่อิสราเอลซึ่งไม่ขอเปิดเผยนาม ได้โจมตีข้อเสนอหยุดยิงของเคร์รี โดยชี้ว่าเป็น “การโจมตีด้วยยุทธวิธีของแบบก่อการร้าย” และวิจารณ์ว่าเป็น “ความปรารถนาของฮามาส” โดยในข้อเสนอดังกล่าวมีดังเช่น การขอให้อิสราเอลยกเลิกการปิดล้อมฉนวนกาซาที่รัฐยิวดำเนินมาเนิ่นนาน ซึ่งข้อเสนอนี้ไม่คำนึงถึงความมั่นคงของอิสราเอล เนื่องจากไม่ได้ระบุถึงการป้องกันไม่ให้ฮามาสยิงจรวดโจมตีรัฐยิว และการที่กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์กลุ่มนี้ลอบเข้าอิสราเอลผ่านเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินอันซับซ้อน

นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (29) การถอดบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ กับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมาได้แพร่สะพัดไปทั่วสื่อสังคมออนไลน์

ฮาร์ฟกล่าวว่า การถอดบทสนทนาที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อโจมตีรัฐมนตรี” เคร์รี ว่าเขาสนับสนุนฝ่ายฮามาส “เป็นสิ่งที่เหลวไหลไร้สาระ” เนื่องจากวอชิงตัน ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของรัฐยิวอย่างมาก โดยเห็นได้จากการที่ชาตินี้ส่งความช่วยเหลือด้านกลาโหมให้แก่อิสราเอลเป็นมูลค่าหลายพันล้าน ซึ่งรวมถึงการให้เงินพัฒนาระบบต่อต้านขีปนาวุธ “ไอออนโดม” ของรัฐยิว เพื่อไว้ใช้สกัดจรวดที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสระดมยิงมาจากฉนวนกาซา

แพทย์ระบุว่า วานนี้ (30) ประชาชนในฉนวนกาซาเสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีของออิสราเอลไปมากกว่า 100 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงชาวปาเลสไตน์ 17 คนในตลาดอันพลุกพล่านแห่งหนึ่ง ฉุดให้ยอดชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตจากภัยสู้รบในฉนวนกาซาที่ดำเนินมานาน 23 วัน ทะยานขึ้นสู่ 1,363 ราย

ทางด้านอิสราเอล วิกฤตความขัดแย้งครั้งนี้ ได้คร่าชีวิตทหารยิว 56 คน และพลเรือนอีก 2 ราย