เอเอฟพี/รอยเตอร์ - มอสโกเตือนในวันพุธ (30 ก.ค.) มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของตะวันตกจะถีบให้ราคาพลังงานในสหภาพยุโรปพุ่งทะยานและจะกระทบกับเศรษฐกิจของกลุ่มอย่างสาหัสพอๆ กับที่ทำกับรัสเซีย ขณะเดียวกัน ยอมรับไม่พอใจความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ แต่จะไม่ใช้แนวทางตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ด้วยชี้อเมริกาเองที่ต้องรับผิดชอบกับสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงของยูเครน
“นี่คือก้าวย่างที่สะเพร่าและขาดความรับผิดชอบ หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่มันจะนำมาซึ่งราคาน้ำมันที่แพงขึ้นในตลาดพลังงานสหภาพยุโรป” กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในถ้อยแถลง ขณะที่รัสเซียคือผู้ส่งออกแก๊สธรรมชาติคนสำคัญแก่ชาติต่างๆของอียู และบ่อยครั้งที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ราคาแก๊สเป็นอาวุธทางการเมือง “เศรษฐกิจของนรัสเซียและสหภาพยุโรปก็เหมือนภาชนะสื่อสาร และความเคลื่อนไหวคว่ำบาตรขั้น 3 จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศษรฐกิจในอียูไม่น้อยไปกว่ารัสเซีย”
อียูยังไม่ได้เผยแพร่ตัวเลขประมาณการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้น โดยนักวิเคราะห์มองว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบอย่างเลวร้าย แต่ขณะเดียวกันเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายก็เสี่ยงดิ่งเข้าสู่ภาวะถดถอย
เมื่อวันอังคาร (29) อียูแถลงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ ที่เรียกว่า “เฟส 3” มีเป้าหมายเล่นงานภาคต่างๆของเศรษฐกิจรัสเซีย อาทิจำกัดการเข้าถึงตลาดการเงินของธนาคารแห่งรัฐต่างๆ ห้ามขายอาวุธและจำกัดการขายเทคโนโลยีที่อ่อนไหว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมพลังงาน
รัสเซีย ตำหนิบรัสเซลส์ว่าเดินตามอย่างวอชิงตันมากไป และบอกว่าสหภาพยุโรปไร้ความสามารถที่จะแสดงบทบาทอย่างอิสระในกิจการต่างๆ ของโลก
มาตรการที่แถลงออกมาสอดคล้องกันของสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป ถือเป็นระยะใหม่แห่งการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก ซึ่งเลวร้ายลงไปอีกจากเหตุเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 298 คน ถูกยิงตกทางภาคตะวันออกของยูเครน ที่ทางสหรัฐฯกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของพวกกบฏนิยมมอสโก
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯบอกว่ามาตรการล่าสุดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรัสเซียหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ขณะที่เป้าหมายสำคัญของมาตรการลงโทษในรอบนี้ ได้แก่ วีทีบี แบงก์ และธนาคารในเครือคือ แบงก์ ออฟ มอสโก ตลอดจน รัสเซียน อกริคัลเจอรัล แบงก์ รวมถึงยูไนเต็ด ชิปปิ้ง คอร์เปอเรชัน รัฐวิสาหกิจที่ผลิตเรือดำน้ำโจมตีและเรือรบ
นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์วีโต้ ณ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ บอกว่าจะนำมาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้มาเป็นข้อทบทวนความสัมพันธ์กับวอชิงตันในอนาคต แต่บอกว่าไม่ถึงขั้นตอบโต้ด้วยการใช้มาตรการแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่สะท้อนให้เห็นถึงความขุ่นเคืองของชาติตะวันตกต่อสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าการปลุกปั่นความขัดแย้งภายในยูเครนของรัสเซีย ในนั้นรวมถึงการผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และกระพือความรุนแรงทางภาคตะวันออก ด้วยให้การสนับสนุนทางอาวุธและนักรบแก่ฝ่ายกบฏ
อย่างไรก็ตาม รัสเซียบอกว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯคือความพยายามหันเหความรับผิดชอบของวอชิงตันต่อบทบาทของพวกเขาในยูเครน หลังจากประธานาธิบดีวิคตอร์ ยานูโควิช ประธานาธิบดีที่ได้รับการสนับสนุนจากมอสโก ถูกโค่นอำนาจและแทนที่ด้วยรัฐบาลฝักใฝ่ตะวันตก
“มันไม่ใช่รัสเซีย แต่เป็นรัฐบาลเคียฟและผู้อุปถัมภ์ต่างแดนต่างหากที่ต้องรับผิดชอบต่อความผิดฐานที่มีพลเรือนเสียชีวิตทางภาคตะวันออกมากขึ้นเรื่อยๆ” กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียกล่าวโทษสหรัฐฯ และยุโรปในถ้อยแถลง