xs
xsm
sm
md
lg

วอชิงตันเปิดแผลใหม่สัมพันธ์มอสโก บอกรัสเซียผิดสัญญา “พัฒนาจรวดร่อน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ(ซ้าย) และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย(ขวา) กับความสัมพันธ์ที่หมางเมิน
เอเจนซีส์ - สัมพันธ์มะกัน - รัสเซีย ตึงเครียดยิ่งขึ้น หลังวอชิงตันกล่าวหาอย่างเปิดเผยว่า มอสโกละเมิดสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์ ด้วยการแอบทดลองยิงจรวดร่อนแบบยิงจากภาคพื้นดิน ซึ่งแม้ไม่ถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงตะวันตก แต่อเมริกาก็ระบุเป็นเรื่องร้ายแรงและเร่งเร้าเครมลินส่งเจ้าหน้าที่อาวุโสร่วมหารือโดยเร็ว

สหรัฐฯ สรุปในรายงานประจำปี 2014 ว่า รัสเซียละเมิดสนธิสัญญาว่าด้วยอาวุธนิวเคลียร์พิสัยปานกลาง (INF) ปี 1987 ที่ห้ามการครอบครอง ผลิต หรือทดสอบอาวุธ เช่น จรวดร่อน (cruise missile) ประเภทยิงจากภาคพื้นดิน ที่มีพิสัยทำการ 500 - 5,500 กิโลเมตร

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้ส่งสาส์นถึงประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เพื่อแจ้งเรื่องนี้ ซึ่งคณะรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าเป็นเรื่อง “ร้ายแรงมาก” และอเมริกาต้องการหารือกับรัสเซียโดยเร็ว

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า อเมริกาเรียกร้องให้รัสเซียเคารพยึดมั่นในพันธผูกพันภายใต้สนธิสัญญาฉบับนี้ รวมทั้งกำจัดอาวุธต้องห้ามในวิธีการที่สามารถตรวจยืนยันได้

วอชิงตันนั้นเตรียมการพร้อมแล้วสำหรับการหารือ “ทันที” ในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส เจ้าหน้าที่คนเดิมสำทับว่า อเมริกาจะแจ้งให้พวกชาติพันธมิตรรับรู้เพื่อร่วมพิจารณาผลกระทบจากการละเมิดสนธิสัญญาของรัสเซีย หากรัสเซียไม่ยุติการละเมิด

สนธิสัญญา INF ที่ลงนามโดยประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดี มิคาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำของรัสเซียในเวลานั้น มีวัตถุประสงค์ในการกำจัดขีปนาวุธนำวิถีและจรวดร่อนพิสัยปานกลาง ประเภทซึ่งยิงจากพื้นดิน ทั้งแบบที่ติดตั้งและแบบที่ไม่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า INF ไม่เพียงตอบสนองผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของอเมริกากับรัสเซียเท่านั้น แต่ยังของภาคีอื่นๆ อีก 11 ประเทศที่เคยเป็นรัฐในอดีตสหภาพโซเวียต รวมทั้งส่งเสริมความมั่นคงของพันธมิตรและความมั่นคงในยุโรปและตะวันออกไกลด้วย

ว่าที่จริงเรื่องนี้คุกรุ่นมาหลายปีแล้ว แต่อเมริกาเพิ่งออกมากล่าวหาอย่างเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (28 ก.ค.) ที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคม เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เคยแถลงว่า วอชิงตันได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือกับมอสโก หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า แดนหมีขาวเริ่มทดสอบจรวดร่อนแบบที่ยิงจากภาคพื้นดินเมื่อต้นปี 2008 และเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายควบคุมอาวุธของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้หนึ่งกล่าวถึงประเด็นนี้กับมอสโกอีกครั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2013

ซากีเสริมว่า ณ ตอนนั้น ตนไม่สามารถไม่พิสูจน์รายงานของนิวยอร์กไทมส์ได้ และกำลังมีการตรวจสอบระหว่างหน่วยงานเพื่อพิจารณาว่า รัสเซียละเมิดสนธิสัญญา INF จริงหรือไม่

ขณะเดียวกัน ดาริล คิมบอลล์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมควบคุมอาวุธ ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยและสนับสนุนในวอชิงตัน มองว่า การละเมิดสัญญาดังกล่าวไม่ถือเป็นภัยคุกคามใหม่ต่ออเมริกาหรือพันธมิตรในยุโรป เนื่องจากรัสเซียมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่แล้ว แต่ถือเป็นเรื่อง “กวนใจ” เนื่องจากบ่งชี้ว่า มอสโกกำลังแตกแถวจากจุดยืนในการร่วมกับสหรัฐฯ ควบคุมอาวุธที่ร้ายแรงที่สุด

ทางด้านเจ้าหน้าที่รัสเซียบอกเพียงแค่ว่า กำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาของอเมริกา

ขณะที่ พาเวล เฟลเกนฮาวร์ นักวิเคราะห์อิสระที่เชี่ยวชาญด้านการทหารของรัสเซีย ให้ความเห็นว่า เขาเชื่อว่า สหรัฐฯมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเวอร์ชันที่เป็นจรวดร่อน ของระบบขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกล “อิสคันเดอร์” โดยที่เวอร์ชันดังกล่าวรู้จักกันในนาม “อิสคันเดอร์ เค”

เขาบอกว่า ได้มีการนำจรวดแบบนี้มาทดสอบในพิสัย 1,000 กม. แต่เห็นกันว่าถ้าเพิ่มถังเชื้อเพลิงก็น่าจะขยายพิสัยทำการไปเป็น 2,000 - 3,000 กม. ได้ เฟลเกนฮาวร์ ชี้ว่า พวกผู้นำรัสเซียนั้นไม่ค่อยพออกพอใจสนธิสัญญา INF

“ปูติน กับ เซียร์เกย์ อีวานอฟ (หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของปูติน และเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย) ได้เคยพูดว่าสนธิสัญญา INF กำลังกลายเป็นอุปสรรค อีกทั้งไม่มีความจำเป็นสำหรับรัสเซีย โดยที่ อีวานอฟ พูดเช่นนี้ระหว่างกล่าวถึง อิสคันเดอร์ เค” เขาระบุ

สำหรบข้อกล่าวหาล่าสุดนี้เกิดขึ้นขณะที่โอบามากับปูตินกำลังปีนเกลียวกันอย่างหนักกรณีการแทรกแซงยูเครนของรัสเซีย โดยตะวันตกกล่าวหาว่า มอสโกติดอาวุธให้กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนบ่อนทำลายเสถียรภาพของยูเครน
กำลังโหลดความคิดเห็น